"ซี้มาก" ได้เข้าก่อน รัสเซีย แง้มประตูรับคนเข้าเมือง

26 ก.ค. 2563 | 00:09 น.
อัปเดตล่าสุด :26 ก.ค. 2563 | 07:19 น.

คอลัมน์หลังกล้องไซบีเรีย : เรื่อง: ยลรดี ธุววงศ์

 

          เลื่อนแล้วเลื่อนอีกก็ยังไม่เปิดประเทศอย่างที่มั่นใจไว้เสียที จนหลายเมืองข้างเคียงเริ่มเปิดบ้านต้อนรับคนกลับบ้านอย่างอิสระ และบางประเทศเริ่มต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับเข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจกันต่อแล้ว

          จากที่เมื่อต้นเดือนประกาศออกมาว่า รัฐบาลรัสเซียจะเริ่มอนุญาตเที่ยวบินระหว่างประเทศให้กลับมาทำบินได้ในวันที่ 15 กรกฎาคม หลังปิดประเทศคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสแต่วันที่ 27 มีนาคม แต่ถึงสัปดาห์นี้ทุกอย่างกลับเงียบงัน

          ล่าสุด ยังไม่มีอัพเดทว่ารัฐบาลจะเปลี่ยนใจมาเปิดบ้านให้คนเข้า-ออกประเทศได้เมื่อไหร่ แต่เครมลินได้ออกมาชี้แจงเงื่อนไขใหม่ในการต้อนรับชาวต่างชาติ ว่าขึ้นอยู่กับความร่วมมือระหว่างสองประเทศ วัดใจว่ามีผลประโยชน์และความใกล้ชิดมากน้อยกันขนาดไหน โดยขณะนี้มีข่าวว่ารัสเซียเริ่มเดินหน้าเจรจาข้อตกลงกับหลายประเทศแล้ว แต่ยังไม่มีการตัดสินใจอย่างแน่ชัดออกมา

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยุโรป เริ่มเปิดบ้านไร้วี่แววต้อนรับ "ชาวหมีขาว"
“รัสเซีย” ลุ้นขึ้นแท่นผลิต “วัคซีนโควิด-19” ประเทศแรกของโลก

\"ซี้มาก\" ได้เข้าก่อน รัสเซีย แง้มประตูรับคนเข้าเมือง

          อีกเงื่อนไขหนึ่งที่รัสเซียจะใช้เป็นเกณฑ์พิจารณาว่าประเทศไหนจะได้รับอนุญาตให้กลับเข้ามายังรัสเซียได้ก่อน ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของประเทศนั้นในรอบ 14 วัน ต้องมีค่าเฉลี่ยน้อยกว่า 40 คนต่อประชากร 1 แสนคน และจะปรับพิจารณาอัพเดททุก 2 สัปดาห์ ซึ่งประเทศกลุ่มแรกๆ ที่รัฐบาลหมายตาไว้ได้แก่ สหราชอาณาจักร ฮังการี เยอรมนี เดนมาร์ก อิตาลี เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ โปแลนด์ ฟินแลนด์ เวียดนาม จีน มองโกเลีย และศรีลังกา   

          ตั้งแต่ปิดน่านฟ้ามาเป็นเวลา 4 เดือนเต็ม ธุรกิจสายการบินต่างเงียบเหงา มีเพียงเที่ยวบินพิเศษสำหรับพาคนกลับประเทศของตัวเองเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้บินเข้าออกรัสเซีย ซึ่งตั้งแต่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัสเซียได้พาพลเมืองกลับบ้านด้วยเที่ยวบินพิเศษจากทั่วทุกมุมโลกแล้วกว่า 266,000 คน และคาดว่ายังมีชาวรัสเซียตกค้างอยู่ในประเทศไทยเพราะกลับบ้านไม่ได้อีกหลายพันคนทั่วประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมืองท่องเที่ยวสำคัญเช่นกรุงเทพฯ พัทยา และภูเก็ต

          ส่วนคนไทยในรัสเซีย ถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถเดินทางกลับมาได้เช่นกัน จนถึงเดือนกรกฎาคมนี้คาดว่าน่าจะยังมีคนไทยอยู่ในรัสเซียอีกประมาณ 2 พันคน ส่วนใหญ่คือชาวไทยที่เข้ามาทำงานเป็นพนักงานนวดในร้านนวดแผนไทยตามเมืองต่างๆ ทั่วประเทศ จากข้อมูลของสถานทูตไทย ณ กรุงมอสโก คาดว่ากลุ่มนี้น่าจะมีมากถึง 1,300-1,400 คน

          คนไทยที่ยังอยู่ในรัสเซียที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ ขณะนี้มีทางเลือกเพียงทางเดียวที่จะกลับบ้านคือการลงทะเบียนกับสถานทูตเพื่อรอการประสานงานเที่ยวบินพิเศษกับทางรัฐบาลรัสเซียเพียงเท่านั้น ซึ่งความถี่ของแต่ละเที่ยวบินไม่มีความแน่นอน บางเดือนมีหลายเที่ยวบิน บางเดือนอาจมีเพียงเที่ยวบินเดียวเท่านั้น ส่วนเครื่องบินพิเศษมักเป็นเที่ยวบินคาร์โก ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ใช้ขนส่งสินค้า ขนสินค้าจากไทยในขากลับหลังไปส่งคนไทยกลับบ้านแล้ว 

          ด้วยความที่เป็นเที่ยวบินพิเศษ ผู้โดยสารจึงไม่สามารถเลือกสนามบินที่ใช้เดินทางกลับได้ โดยมากแล้วเครื่องบินมักจะออกเดินทางจากมอสโก ทำให้ไม่ว่าจะอาศัยอยู่ที่ส่วนไหนของประเทศที่กว้างใหญ่ที่สุดในโลก ก็ต้องเดินทางอ้อมมายังเมืองหลวงเสียก่อน ทั้งที่ในสถานการณ์ปกติ มีหลายเที่ยวบินให้บริการไฟล์ทระหว่างกรุงเทพฯ และเมืองอื่นทางตอนกลางหรือทางสุดเขตตะวันออกของรัสเซียด้วย ซึ่งใช้เวลาเดินทางน้อยกว่า

          ส่วนชาวต่างชาติคนไหนที่หาไฟล์ทกลับบ้านไม่ได้ เช่นกลุ่มคนที่ไม่มีเงินพอสำหรับซื้อตั๋วกลับบ้าน หรือบางประเทศที่จำเป็นต้องต่อเครื่องในประเทศอื่นที่ยังปิดประเทศอยู่ กลุ่มนี้ต้องอยู่ต่ออย่างไม่มีทางเลือก ช่วงนี้รัฐบาลรัสเซียเปิดโอกาสให้อยู่ภายในประเทศต่อได้อย่างถูกกฎหมายโดยไม่ต้องทำเรื่องต่อวีซ่าจนถึงกลางเดือนกันยายน โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเดินทางออกนอกประเทศทันทีด้วยเที่ยวบินแรกทันทีที่มีไฟล์ท มิเช่นนั้นอาจโดนปรับหรือโดนขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประเทศไปกันยาวๆ

          ไทยเราเริ่มเตรียมมาตรการคลายล็อกเฟส 6 ยกเว้นให้ชาวต่างชาติ 4 กลุ่ม ได้แก่ ผู้จัดแสดงสินค้า ทีมงานถ่ายทำภาพยนตร์ แรงงานต่างด้าว และผู้ที่เข้ามาใช้บริการทางการแพทย์แล้ว แต่รัสเซียนอกจากจะเงียบเรื่องการเปิดน่านฟ้าไม่เหมือนกับที่เกริ่นมาก่อนหน้านี้ ยังไม่แสดงทีท่าหรือออกมาตรการผ่อนปรนให้ผู้ที่มีความจำเป็นต้องเดินทางเข้าประเทศเลย หากใครวางแผนไปท่องเที่ยวรัสเซียอาจต้องเปลี่ยนแผนพับโครงการกันไปยาวๆ จนถึงปีหน้า หรือจนกว่าวัคซีนจะเข้ามาช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้ผู้คนกลับมาเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างประเทศอย่างอิสระได้อีกครั้ง

 

** พบกับ คอลัมน์ “หลังกล้องไซบีเรีย” ทุกวันอาทิตย์ ทุกช่องทางออนไลน์ของ “ฐานเศรษฐกิจ" **
Bio นักเขียน : “ยลรดี ธุววงศ์” อดีตนักข่าวที่ผ่านสนามข่าวทั้งในและต่างประเทศ จากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ Spring News ปัจจุบันเป็นนิสิตปริญญาโทอยู่ในส่วนที่หนาวเย็นที่สุดของประเทศรัสเซีย