ไม่ควรเสี่ยง จัดมหกรรมสงกรานต์

สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย ล่าสุดเมื่อวันอังคารที่ 9 มีนาคม 2564 มีผู้ป่วยรายใหม่ 60 ราย ผู้ป่วยยืนยันสะสม 26,501 ราย หายป่วยแล้ว 25,851 ราย และเสียชีวิตสะสม 85 ราย ซึ่งสถานการณ์เบาบางลงตามลำดับและเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อแค่หลักสิบต่อเนื่องหลายวันในการระบาดระลอก 2 นี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญยังคงเห็นว่าการติดเชื้อในชุมชนยังมีอยู่ และประเมินแล้วยังไม่มีโอกาสเห็นการปลอดเชื้อในประเทศได้

 สถานการณ์ที่จะเกิดการระบาดระลอก 3 ก็ยังมีความเป็นได้ โดยหากพ้นกลางเดือนมีนาคมไปแล้ว หากกดการระบาดให้เหลือน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ ระยะคงที่จะยาว หากผู้ติดเชื้อเป็นหลักสิบต่อวัน คาดว่าจะมีระยะเวลาราว 10 สัปดาห์ (72 วัน) บวกลบสองสัปดาห์ แต่หากเพิ่มขึ้นแต่ละหลัก ระยะคงที่จะสั้นลงราว 21 วันต่อหลักที่เพิ่มขึ้น อาจจะเกิดการระบาดระลอก 3 ในเดือนมิ.ย.ที่ต้องระมัดระวัง

 อย่างไรก็ดี ในด้านสถานการณ์การประกอบธุรกิจ การค้าขาย โดยเฉพาะธุรกิจบริการ การท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ต้องปิดกิจการหรือหยุดการค้าขายลงทั้งถาวรและชั่วคราวจำนวนมาก ซึ่งก็มีความจำเป็นในการฟื้นฟู ฝ่าวิกฤติโควิด ซึ่งการจะฟื้นขึ้นมาได้ จำต้องให้ผู้คนเดินทางท่องเที่ยว โดยรัฐบาลกำลังผ่อนคลายข้อจำกัดในการเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น

 สถานการณ์และข้อพิจารณาที่ว่านี้มีความสุ่มเสี่ยงอย่างสูง โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ที่จะมาถึง ในกรณีมีการจัดมหกรรมเทศกาลสงกรานต์ เพื่อหวังกระตุ้นการท่องเที่ยว มีการรวมตัวของคนจำนวนมากแออัดในสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง ส่งผลต่อโอกาสเกิดระบาด หากพื้นที่นั้นมีคนติดเชื้ออยู่ หรือกรณีกิจกรรมที่มีการรวมตัวของคน ซึ่งย่อมเกิดโอกาสพูดคุย สัมผัสใกล้ชิดมากขึ้น

เพื่อเป็นการชะลอ หรือลดความเสี่ยงในการเกิดระบาดระลอก 3 เราเห็นว่ารัฐบาลไม่ควรอนุญาตให้แต่ละจังหวัดจัดงานมหกรรมสงกรานต์ โดยอาจผ่อนคลายแค่ให้ประชาชนสามารถเดินทางท่องเที่ยวเป็นกลุ่มๆ หรือ เปิดแค่ให้ประชาชนได้กลับไปเยี่ยมญาติ คารวะผู้ใหญ่ ทำบุญตามประเพณี ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของกลุ่ม อสม. หรือใช้เครื่องมือทางอิเล็กทรอนิกส์ในการติดตามเพื่อสอบสวน สกัดโรคให้ได้อย่างรวดเร็ว

 ขณะเดียวกันประชาชนต้องยอมรับและเคร่งครัดในข้อปฏิบัติเบื้องต้นเพื่อลดความเสี่ยง สวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ไม่สังสรรค์ด้วยการใช้ภาชนะร่วมกัน ซึ่งต้องทำให้เป็นข้อปฏิบัติพื้นฐาน เพราะต้องยอมรับว่าความเสี่ยงของโควิด-19 ยังคงอยู่และพร้อมที่รุกคืบเข้ามาอย่างต่อเนื่อง หากเราหย่อนยานในข้อปฏิบัติในการป้องกัน