Harvard Business Review รายงานว่าโดยทั่วไปแล้วคนมักจะรับตำแหน่งผู้บริหารครั้งแรกเมื่ออายุเฉลี่ย 30 ปี ในขณะที่เริ่มฝึกอบรมการเป็นผู้นำครั้งแรกเมื่ออายุ 40 ปี และการเป็นผู้บริหารไม่ได้ทำให้เป็นผู้นำโดยอัตโนมัติ ซึ่งความแตกต่างสำคัญก็คือ ผู้บริหารจะทำหน้าที่มอบหมายงานให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาที่ทำงานให้กับพวกเขา
ในขณะที่ผู้นำจะมีผู้ตามและเชื่อในสิ่งที่พวกเขากำหนดไว้ให้กับบริษัท ด้วยเหตุนี้เองผู้เชี่ยวชาญจึงแนะนำวิธีการที่ผู้บริหารจะสามารถสร้างและพัฒนาทักษะในการเป็นผู้นำที่จะส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจให้กับพนักงานของตนได้ ดังนี้
ให้ความเคารพซึ่งกันและกัน ประการแรกและสำคัญที่สุดคือการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน เพราะไม่มีพนักงานคนใดจะเคารพผู้บริหารที่ไม่ให้ความเคารพพวกเขา และเมื่อพนักงานเคารพคุณ พวกเขามักจะทำงานหนักเพื่อคุณ ร่วมมือกับผู้อื่นมากขึ้น มีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น มีความยืดหยุ่น และมีแนวโน้มที่จะเป็นผู้นำ ทั้งนี้มีหลายปัจจัยดังต่อไปนี้ที่ควรคำนึงถึงเพื่อให้ได้รับความเคารพจากพนักงาน
1. ผู้นำทำเป็นแบบอย่าง เตรียมพร้อมที่จะทำงานทั้งเล็กและใหญ่ เช่น การชงกาแฟด้วยตัวเองหรือพิมพ์สำเนางานเพื่อแจกให้กับพนักงาน
2. รับฟังคนในทีม เปิดพื้นที่ให้คนอื่นได้พูดและเปิดโอกาสให้พวกเขาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาสิ่งต่างๆ ซึ่งการจัดประชุมทีมอย่างสม่ำเสมอจะเป็นการเปิดรับข้อมูลย้อนกลับและไอเดียต่างๆได้เป็นอย่างดี
3. ปฏิบัติตามกำหนดเวลาและข้อตกลง เพราะหากคุณยังไม่สามารถทำตามกำหนดเวลาของตัวเองได้ แล้วเหตุใดทีมงานของคุณถึงควรต้องทำ และหากคุณเสนอที่จะช่วยเหลือใครบางคนในโครงการใดโครงการหนึ่ง ก็ควรทำตามสัญญานั้นให้ได้
4. แสดงความรับผิดชอบ หากสิ่งต่างๆ ไม่เป็นไปตามแผน
ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร อย่าประมาทพลังของการสื่อสาร เพราะผู้บริหารที่มีทักษะในการสื่อสารที่ไม่ดีมักเหินห่างจากพนักงาน ปล่อยให้ทีมสับสนและแทบไม่เชื่อว่าสิ่งต่างๆ จะดำเนินการอย่างถูกต้อง ดังนั้นโปรดใช้เวลาในการสื่อสารความคิด ความคาดหวัง กลยุทธ์ และทุกเรื่องระหว่างกัน
เพื่อทำให้ทุกคนรู้สึกมีส่วนร่วมกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น การมีส่วนร่วมกับทีมและทำให้พวกเขามีส่วนร่วม จะทำให้การดำเนินงานประสบความสำเร็จและทีมมีความสุขและมีแรงจูงใจ โปรดตระหนักว่าคุณไม่สามารถคาดหวังให้กลยุทธ์ใดๆได้ผล หากไม่เข้าใจและไม่มีใครทุ่มเทให้กับมัน
สร้างวัฒนธรรมองค์กร ผู้นำควรสนับสนุนวัฒนธรรมองค์กรที่กระตือรือร้น หากคุณลักษณะของพนักงานไม่เข้ากับวัฒนธรรมอาจส่งผลต่อการตัดสินใจลาออกได้ ดังนั้นควรมีการกำหนดวัฒนธรรมตั้งแต่เนิ่นๆ และสรรหาผู้ที่เหมาะสมที่จะอยู่ในกลุ่มผู้มีความสามารถ จึงจะทำให้พนักงานรู้สึกสบายใจซึ่งจะส่งผลในเชิงบวกต่อผลการปฏิบัติงานของพวกเขา Harvard Business ทำการค้นหาคุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในการเป็นผู้นำ
จากการสอบถามพนักงาน 700 คนว่าพวกเขาให้ความสำคัญกับคุณสมบัติใดมากที่สุด พบว่า 70% เห็นว่าการสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมเป็นคุณลักษณะที่สำคัญมาก และส่งผลให้อัตราการหมุนเวียนงานลดลง ผลิตภาพเพิ่มขึ้น และผลกำไรที่มากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับสิ่งที่กล่าวในข้างต้นว่าผู้นำต้องทำเป็นแบบอย่าง
ผู้นำสามารถกำหนดได้ว่าคุณลักษณะใดที่มีความสำคัญภายในองค์กร เช่น การสื่อสาร ความซื่อสัตย์ และความมุ่งมั่น เป็นต้น พนักงานที่ทำงานในวัฒนธรรมที่มีส่วนร่วมกับผู้นำของตนจะมีความคิดเห็นในเชิงบวกเกี่ยวกับบริษัทและจะเป็นผู้สนับสนุนที่เข้มแข็ง
เข้าโปรแกรมอบรมความเป็นผู้นำ ทุ่มเทให้กับทีมและลงทะเบียนในโปรแกรมการฝึกอบรมความเป็นผู้นำซึ่งออกแบบมาเพื่อแนะนำผู้นำในประเด็นสำคัญและวิธีการใช้กลยุทธ์การคิดไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ แน่นอนว่าผู้นำมีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ในการสร้างแรงบันดาลใจและสนับสนุนพนักงานของตน ดังนั้นการเป็นผู้นำที่ดีจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก
หน้า 14-15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,723 วันที่ 17 -20 ตุลาคม พ.ศ. 2564