เปิดแนวคิด “สี จิ้นผิง” ในการเสริมสร้างกองทัพจีนยุคใหม่

26 พ.ย. 2564 | 10:14 น.
อัปเดตล่าสุด :26 พ.ย. 2564 | 17:21 น.

เปิดแนวคิด “สี จิ้นผิง” นำลัทธิสังคมนิยมมาใช้ในการเสริมสร้างกองทัพจีนยุคใหม่ ยืดหยัดแนวคิดหนึ่งประเทศ สองระบบ และเดินหน้ารวมชาติกับไต้หวันในอนาคต

วันนี้(26 พ.ย.64) พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับการยึดถือ “แนวความคิดของนายสี จิ้นผิง ว่าด้วยลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะจีนสำหรับยุคใหม่” มาใช้ในการเสริมสร้างกองทัพของจีน ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้

 

๑. เมื่อวันที่ ๒๐ พ.ย.๖๔ คณะกรรมาธิการการทหารกลาง (Central Military Commission) ของจีน ระบุว่าได้ออกประกาศเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยยกย่องหน่วยทหารจำนวน ๑๐ หน่วยและบุคลากรทางทหารจำนวน ๒๐ นายในการเตรียมการทางทหาร (ทั้งนี้ ในหน่วยทหารของกองทัพจีนจะมีผู้บังคับบัญชา ๒ นายที่มีชั้นยศระดับเดียวกัน ได้แก่ ผู้บัญชาการฝ่ายการเมือง ซึ่งเป็นผู้แทนพรรคคอมมิสนิสต์จีนมีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลนโยบายการทหารและวินัยของพรรคฯ ส่วนผู้บัญชาการฝ่ายบริหารจะมีอำนาจหน้าที่ในการบริหารจัดการหน่วยงานตามภารกิจและโครงสร้างการจัด) 

๒. ประกาศดังกล่าวได้ชี้ให้เห็นว่า ตั้งแต่มีการประชุมงานด้านการทหารของคณะกรรมาธิการการทหารกลาง ซึ่งทุกระดับได้ยึดถือแนวความคิดของนายสี จิ้นผิง ว่าด้วยลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะจีนสำหรับยุคใหม่ โดยนำความคิดของนายสี จิ้นผิง ในการเสริมสร้างกองทัพมาใช้อย่างทั่วถึง และนำยุทธศาสตร์ทางทหารสำหรับยุคใหม่มาใช้อย่างทั่วถึง 

 

รวมทั้งเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงวิวัฒนาการของรูปแบบยุทธศาสตร์ระหว่างประเทศและความมั่นคงที่อยู่โดยรอบ เมื่อสถานการณ์ได้มีการพัฒนาจึงต้องเสริมสร้างความตระหนักรู้ถึงวิกฤตและสงครามอย่างต่อเนื่อง 

ตลอดจนการทำหน้าที่อย่างแข็งขันในการเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทางทหาร และการบรรลุภารกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจำเป็นต้องมีกองทหารชั้นยอดและผู้บุกเบิกทางทหารชั้นยอดจำนวนมากให้ปรากฏตัวขึ้นในแนวหน้าของการต่อสู้ทางทหาร ทั้งนี้ การฝึกอบรมเป็นสิ่งที่สำคัญรวมทั้งการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ตลอดจนงานเร่งด่วนและงานอันตรายต่างๆ

 

๓. แนวความคิดของนายสี จิ้นผิง ว่าด้วยลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะจีนสำหรับยุคใหม่ ประกอบด้วยแนวทางการปฏิบัติ ๑๔ ประการ ได้แก่ 

 

(๑) ยืนหยัดการนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในทุกมิติ (๒) พรรคคอมมิวนิสต์จีนต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง (๓) ยืนหยัดการปฏิรูปให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น (๔) ใช้แนวคิดการพัฒนาใหม่ที่เน้นวิทยาศาสตร์ นวัตกรรม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โปร่งใส และกระจายประโยชน์ (๕) ยืนหยัดสังคมนิยมอันมีเอกลักษณ์แบบจีน ซึ่งมีประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ 

 

(๖) ปกครองจีนด้วยการยึดมั่นในกฎหมาย (๗) ปลูกฝังค่านิยมสังคมนิยมอันมีเอกลักษณ์แบบจีน (๘) การยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นเป้าหมายของการพัฒนา (๙) การพัฒนาต้องเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (๑๐) เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางการทหาร 

 

(๑๑) กองทัพต้องอยู่ภายใต้พรรคคอมมิวนิสต์จีน (๑๒) ยืดหยัดแนวคิดหนึ่งประเทศ สองระบบ และเดินหน้ารวมชาติกับไต้หวันในอนาคต  (๑๓) ร่วมสร้างสังคมโลกที่สันติและมีจุดหมายร่วมกัน และ (๑๔) บังคับใช้วินัยพรรคอย่างเคร่งครัด 

 

บทสรุป ประกาศคณะกรรมาธิการการทหารกลางของจีนดังกล่าว ได้กำหนดให้ทั้งกองทัพควรนำหน่วยและบุคคลที่ได้รับคำชมเชยเป็นตัวอย่าง ซึ่งใช้ความคิดของนายสี จิ้นผิง ในการเสริมสร้างกองทัพอย่างละเอียดถี่ถ้วน เสริมสร้างทิศทางที่ชัดเจนในการเตรียมพร้อมสำหรับการทำสงคราม 
โดยมุ่งเน้นไปที่การต่อสู้ในสงคราม มุ่งเน้นที่งานทั้งหมด และปรับปรุงอย่างครอบคลุม เพื่อให้มีขีดความสามารถในการชนะสงครามในยุคใหม่อย่งเด็ดเดี่ยวในการปกป้องอธิปไตยของชาติ ความมั่นคง และผลประโยชน์ในการพัฒนา

 

(ข้อมูลจากเว็บไซต์ http://military.people.com.cn/n1/2021/1120/c1011-32287500.html และเว็บไซต์ http://theory.people.com.cn/n1/2018/0822/c413700-30244032.html )