หอการค้าไทยในจีน ฝ่าวิกฤติโควิด ต้อนรับปีเสือ (1)

21 ม.ค. 2565 | 08:20 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ม.ค. 2565 | 15:20 น.

หอการค้าไทยในจีน ฝ่าวิกฤติโควิด ต้อนรับปีเสือ (1) : คอลัมน์มังกรกระพือ โดย...ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน

วันที่ 12 ม.ค.2565 ที่ผ่านมา ผมมีโอกาสเข้าร่วมงานสัมมนาประจำปีของหอการค้าไทยในจีน ซึ่งขอบอกว่าทั้งสนุกและเต็มไปด้วยสาระที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการและผู้คนในแวดวงไทย-จีน ใครพลาดโอกาสเข้าร่วมงานไลฟ์สดในวันดังกล่าว ผมขอแนะนำให้ลองไปหาชมย้อนหลังจากโลกอินเตอร์เน็ต 

 

ในปี 2022 นี้ หอการค้าไทยในจีนกำหนดแนวคิดหลักโดยเน้นเรื่องการเตรียมความพร้อมสำหรับโอกาสและความท้าทายใหม่ โดยมีหัวข้อการสัมมนาว่า “ฝ่าวิกฤติโควิด ต้อนรับปีเสือ” โดยได้รับเกียรติจากผู้บริหารขององค์กรภาครัฐเข้าร่วมงานออนไลน์อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง อาทิ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) สถานกงสุลใหญ่ (สกญ.) สำนักงานตัวแทนด้านการค้า การลงทุน และการเกษตรของไทยในจีน สำนักงาน ก.พ. และสถาบันการศึกษาระดับปริญญาในไทย 

นอกจากนี้ ยังมีผู้บริหารระดับสูงขององค์กรเอกชนชั้นนำของไทย เข้าร่วมงานสัมมนาจำนวนมาก อาทิ ท่านธนากร เสรีบุรี นายกสมาคมส่งเสริมการลงทุนและการค้าไทย-จีน คุณประเสริฐศักดิ์ องค์วัฒนกุล ที่ปรึกษาอาวุโสอีซีไอกรุ๊ป คุณชเล วุทธานันท์ ผู้ก่อตั้งและเจ้าของแบรนด์ “พาซาญ่า” คุณประพีร์ สรไกรกิติกุล แห่ง

 

แพรนด้าจิวเวลลี่ รวมทั้งผู้บริหารของแบรนด์ดังอย่างทองม้วน “แก้ว” และเครื่องปรุงรส “ง่วนสุ่น” ตลอดจนสื่อมวลชนไทยจากหลายสำนัก

งานสัมมนาเริ่มต้นด้วยการกล่าวเปิดงานของ ท่านสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกลุ่มธุรกิจเครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะประธานหอการค้าไทยในจีน โดยฉายภาพว่า “วิกฤติโควิด-19 ในช่วงกว่า 2 ปีที่ผ่านมาไม่อาจหยุดยั้งการพัฒนาที่รุดหน้าของจีนได้ แต่ภายใต้การเติบโตดังกล่าวก็แฝงไว้ซึ่งความท้าทายที่ซ่อนอยู่ เราจึงต้องเตรียมความพร้อมที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่อยู่เสมอ” 
 

 

ภายหลังความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในการขจัดปัญหาความยากจนให้หมดสิ้นจากแผ่นดินจีนเมื่อปี 2020 จีนในวันนี้ได้ก้าวเข้าสู่ช่วงศตวรรษที่ 2 ของการพัฒนาประเทศในยุคใหม่ภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์จีน การดำเนินนโยบายการพัฒนาในเชิงรุกของรัฐบาลจีน ความสามารถด้านนวัตกรรมและความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ความทุ่มเทและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของประชาชนชาวจีน และอื่นๆ ล้วนมีส่วนสำคัญให้จีนเดินหน้าสู่การเป็นสังคมแห่งความเจริญรุ่งเรืองถ้วนหน้า

 

ท่านสุภกิตฯ ให้ข้อคิดแนวโน้มเศรษฐกิจของจีนในอนาคตว่า  “...คนชั้นกลางของจีนจะเพิ่มขึ้นเป็น 800 ล้านคนภายในปี 2035 ซึ่งนั่นหมายความว่า เศรษฐกิจจีนในยุคหลังโควิด-19 จะขยายตัวต่อไปอย่างมีคุณภาพ ตลาดจีนจะยังคงเติบใหญ่ยิ่งขึ้น และกระจายตัวออกไปในหลายสิบกลุ่มเมืองทั่วจีนในอนาคต”
 แม้ว่าวิกฤติโควิด-19 จะลดการเดินทางไปมาหาสู่ระหว่างกันของคนไทยและจีน แต่เราก็ยังเห็นการขยายตัวของความร่วมมือทางเศรษฐกิจในมิติอื่น จีนยังคงเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของไทย ขณะที่การลงทุนของจีนในไทยก็เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

 

 ประธานสุภกิตฯ ยังเชื่อมั่นว่า ในปี 2022 นี้ ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างไทยและจีนจะยังคงดำเนินไปในทิศทางที่ดี และหอการค้าไทยในจีนยินดีอย่างยิ่งที่จะได้เป็นกลไกหนึ่งในการช่วยเชื่อมโยงและผลักดันให้เกิดการพัฒนาดังกล่าวขึ้น

 

หลังจากนั้น ท่านอรรถยุทธ์ ศรีสมุทร เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ปาฐกของการสัมมนานี้ ก็เริ่มต้นด้วยการกล่าวขอบคุณและแสดงความชื่นชมหอการค้าไทยในจีน ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน และกระจายไปในหลายมณฑลทั่วจีน ทั้งกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน

 

ท่านอรรถยุทธ์ฯ กล่าวภายใต้ฉากหลังที่มีธงชาติไทยและจีนว่า “ทุกครั้งที่ผมเดินทางไปต่างมณฑล และมีโอกาสได้หารือข้อราชการกับเลขาธิการพรรค ผู้ว่าการมณฑล และผู้บริหารระดับสูงอื่นในพื้นที่ ผมก็ได้รับคำชื่นชมบทบาทของหอการค้าไทยในจีน โดยเฉพาะในมิติด้านเศรษฐกิจและการค้า ซึ่งจะเห็นได้ว่า คนจีนรู้จักธุรกิจไทยเยอะ รู้จักประเทศไทยเยอะ และเดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศไทย 

 

“หอการค้าไทยในจีนจึงเป็นเสมือน ทูตที่ดี ในการช่วยสื่อความนิยมของสินค้าและบริการของไทยในจีน” ท่านอรรถยุทธ์ เปรียบเปรยไว้อย่างลุ่มลึก 

 

สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ทุกแห่งในจีน พร้อมช่วยสนับสนุนการดำเนินงานที่จะเป็นประโยชน์ต่อการสานสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน โดยในปีที่ผ่านมา สอท. และ สกญ. ได้ทำกิจกรรมเป็นจำนวนมาก อาทิ การจัด Thai Week ที่อาคารซีพีเซ็นเตอร์ ณ กรุงปักกิ่งเมื่อปีที่ผ่านมา และวางแผนจะจัดเป็นประจำทุกปี และอาจเพิ่มเป็นปีละสองครั้งในอนาคต เพื่อหวังเพิ่มโอกาสและลู่ทางสำหรับสินค้าไทยสู่ตลาดจีน
 

 

นอกจากนี้ ท่านยังให้คำมั่นว่า สอท. และ สกญ. ในจีนพร้อมจะใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ อาทิ เว็บไซต์ และ BIC ในการเป็นแหล่งข้อมูล ช่วยเผยแพร่ และสนับสนุนการขยายตลาดสินค้าและบริการของไทยในจีน และหวังจะเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันเพื่อการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-จีน โดยยินดีจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนของไทยและจีนที่มองหาพันธมิตรทางธุรกิจระหว่างกัน

 

“ทุกวันนี้ คนจีนล้วนชื่นชอบประเทศไทย รอเวลาที่จะได้กลับไปเยือนไทยอีกครั้ง อยากจะซื้อสินค้าไทย อยากทำธุรกิจกับคนไทย บริษัทรายใหญ่ 500 อันดับแรกของจีน ก็แสดงความสนใจที่จะไปลงทุนและร่วมมือกับกิจการในไทย เพื่อไปทำธุรกิจเพราะว่าจีนมีความรู้สึกที่ดีกับประเทศไทย และกับคนไทย” ท่านทูตอรรถยุทธ์ฯ ถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกในภาพใหญ่ (อ่านต่อตอนจบ)

 

 

เกี่ยวกับผู้เขียน :  : ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดจีน มุ่งหวังนำข้อมูลและมุมมอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาดและอื่น ๆ  ที่อยู่ในกระแสของจีนมาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เพื่อเราจะไม่ตกขบวน “รถไฟความเร็วสูง” ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน

 

 

หน้า 4 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,750 วันที่ 20 - 22 มกราคม พ.ศ. 2565