ตลาดสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างจีนร้อนระอุขึ้นอีกครั้ง เมื่อ iPhone กลับมายึดตำแหน่งแชมป์ยอดจำหน่ายของปี 2021 ไปได้ ทำเอาค่ายจีน “เสียหน้า” และอยู่เฉยไม่ได้ หลายรายดาหน้าออกมาปล่อย “หมัดเด็ด” เพื่อแย่งชิงสัดส่วนทางการตลาดคืน ...
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนของจีนได้พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ทั้งในด้านเทคโนโลยีการผลิต ฟังก์ชั่นพิเศษ รูปแบบการนำเสนอ บริการหลังการขาย และอื่นๆ จนตลาดเริ่มเข้าสู่ช่วงที่เติบโตเต็มที่ในระยะหลัง
ในด้านอุปสงค์ ผู้บริโภคในวันนี้มิได้ซื้อหาโทรศัพท์มือถือเพียงเพื่อตอบสนองต่อความต้องการพื้นฐานในการสื่อสาร แต่เพื่อนำมาใช้ประโยชน์อย่างหลากหลายวัตถุประสงค์ และช่วยเติมเต็ม “สิ่งที่ขาดหายไปในชีวิต” ของแต่ละคน
บ้างใช้เป็นสื่อในการศึกษาเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จดบันทึก ประชุมหารือทางไกล ชำระเงินออนไลน์ และตรวจเช็คสภาพอากาศและจราจร ไล่ไปจนถึงการตอบสนองต่อความต้องการในวิถีชีวิตสมัยใหม่ บางคนอยากเก็บภาพโมเม้นต์ต่างๆ ของครอบครัวและคนที่รัก เก็บสถิติและรับคำแนะนำด้านสุขภาพ ขณะที่บางคนชอบฟังเพลง ดูหนัง หรือแม้กระทั่งไว้เล่นเกมส์ออนไลน์ และอื่นๆ อีกสารพัด
เมื่อผู้คนตระหนักดีว่าโทรศัพท์มือถือกลายเป็นสิ่งที่เกือบขาดไม่ได้ในชีวิตประจำวัน และคนจีนมีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผู้บริโภคชาวจีนจึงต่างมองหาโทรศัพท์มือถือที่มีอัตลักษณ์ดีและคุณภาพสูงขึ้น ยิ่งตลาดเติบใหญ่มากขึ้น กิจการสมาร์ตโฟนก็หันให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างแบรนด์ และพยายามขยับตำแหน่งทางการตลาดสู่ระดับบน
อีกสิ่งหนึ่งที่สังเกตได้ในปี 2021 ก็คือ สภาพตลาดที่มีการแข่งขันเข้มข้น และการพัฒนาด้านเทคโนโลยีที่สูงขึ้นอย่างมาก ทำให้แบรนด์โทรศัพท์มือถือของค่ายจีนและต่างชาติ ต่างงัดเอา “จุดขาย” ใหม่ที่มีคุณภาพดีขึ้น ออกมาแข่งขันกันอย่างอุตลุด อาทิ รูปโฉม การถ่ายภาพ การพับได้ อีสปอร์ต และการชาร์ตเร็ว รวมทั้งราคาที่เย้ายวน
ระดับราคาโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ในปีก่อนถือว่าลดลงในเชิงเปรียบเทียบ เรียกว่าตลาดจีนเต็มไปด้วยสมาร์ทโฟนที่ “ทั้งถูกและดี” ส่งผลให้ตลาดสมาร์ทโฟนระบบ 5G ในจีนเพิ่มขึ้น 63.5% เมื่อเทียบกับของปีที่ผ่านมา แตะ 266 ล้านเครื่องเลยทีเดียว
เหตุการณ์สำคัญของปีก่อนที่กลายเป็นควันหลงมาจนถึงปีนี้ก็คือ iPhone จากค่ายตะวันตก สามารถคว้าตำแหน่งแชมป์ยอดขายในตลาดจีนกลับคืนมาได้เป็นครั้งแรกนับแต่ปี 2016 เรียกว่า แบรนด์จีนโดนแบรนด์อเมริกันมาเหยียบจมูกถึงถิ่นกันเลย ทั้งที่ ในช่วง 2-3 ปีหลัง iPhone เคยเสียศูนย์ และดิ่งลงไปอยู่ในอันดับที่ 4-5 ของตลาดจีนเสียด้วยซ้ำ
คำถามที่ท่านผู้อ่านอยากรู้ก็คือ Apple ทำอย่างไรจึงสามารถคว้าแชมป์แห่งปีมาครองได้สำเร็จ จากการศึกษาพบว่า Apple อาศัยกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ และกลยุทธ์ด้านราคาเป็นหลัก กล่าวคือ ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2021 Apple ปล่อย 4 โมเดลใหม่ภายใต้ซีรีย์ 13 ที่มาพร้อมกับกล้องรุ่นใหม่ รองรับระบบ 5G และเปิดราคาในราคาที่ต่ำกว่ารุ่นเก่าเสียอีก ซึ่งนับว่าโดนใจหนุ่มสาวแดนมังกรอย่างสุดๆ
นอกจากนี้ Apple ยังงัดเอากลยุทธ์การ “ยืมดาบฆ่าคน” จากตำราพิชัยสงครามออกมาใช้ได้อย่างลึกล้ำยิ่ง โดยอาศัยเทศกาลช้อปปิ้งสำคัญของจีนในช่วงโค้งสุดท้ายของปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “วันคนโสด” (Single’s Day) หรือที่เรานิยมเรียกกันจนติดปากว่า 11/11
Apple ทุ่มทรัพยากรดันยอดขายขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในช่วงตลอด 6 สัปดาห์สุดท้ายของปีได้อย่างงดงาม แบรนด์จีนถูกแซงทางโค้งเข้าเส้นชัยได้อย่างเฉียดฉิว และไม่มีเวลาเหลือมากพอในการพลิกเกมส์ ทั้งที่ ตลอดช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2021 Vivo และ OPPO ยังมีสัดส่วนการตลาดนำห่าง iPhone อยู่เกือบเท่าตัว ณ สิ้นปี 2021 iPhone ครองสัดส่วนทางการตลาดราว 22% ของทั้งหมด
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ประเมินว่า หากห่วงโซ่อุปทานของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ไม่เกิดปัญหา Apple น่าจะมีสัดส่วนทางการตลาดเพิ่มมากขึ้นกว่าระดับดังกล่าวเสียด้วยซ้ำ
ขณะที่แบรนด์จีนที่โดนเฉือนจมูกก็ได้แก่ Vivo (20%) และ OPPO (18%) เข้ามาเป็นอันดับ 2 และ 3 อันที่จริง สองแบรนด์จีนนี้ขับเคี่ยวกันอย่างสนุกตั้งแต่ช่วงต้นปี โดย OPPO ก้าวขึ้นคว้าถ้วยแชมป์ในเดือนมกราคม
ขณะที่ Vivo เร่งทำตลาดและขึ้นมาแซงได้ในเดือนมีนาคมด้วย Vivo รุ่น S12 ที่เน้นจับตลาดคนที่หลงใหลในการถ่ายภาพและเซลฟี่ ด้วยกล้องคุณภาพสูงระดับ 108 เม็กกะพิเซล ไฟด้านหน้า และแอพอัพภาพ เพื่อเพิ่มความสวยงามของภาพถ่าย
แต่ทั้งสองแบรนด์ก็เป็นเพียง “ม้าตีนต้น” ที่เร่งเครื่องไม่ขึ้นในช่วงโค้งสุดท้าย ถูก iPhone ทะยานแซงนับแต่กลางเดือนพฤศจิกายน และเฉือนคว้าถ้วยแชมป์ประจำปีไปได้อย่างน่าเจ็บใจ
จากเหตุการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า การเมืองสนามใหญ่กระทบโดยตรงลงสู่สนามเล็กอย่างเต็มๆ เทควอร์ที่สหรัฐฯ ประกาศเปิดศึกดูจะส่งผลกระทบกับค่ายจีนอย่างเต็มๆ ในปีที่ผ่านมา
เพราะภายหลังสหรัฐฯ ประกาศแซงชั่นทางเทคโนโลยีจนทำให้ห่วงโซ่อุปทานของ Huawei ขาดวิ่นไป ยอดขายของ Huawei ก็ดิ่งลงต่อเนื่องแบบกู่ไม่กลับ กล่าวคือ สัดส่วนตลาดของ Huawei ลดลงอย่างต่อเนื่องจากกว่า 30% ของตลาดโดยรวมเมื่อปลายปี 2019 ลงเหลือราว 15% ณ ปลายปี 2020 และลงมาอยู่ที่ระดับต่ำ 10% ในปลายปี 2021
มาตรการแซงชั่นของสหรัฐฯ ดูจะออกฤทธิ์ออกเดชมากกว่าที่คาดคิด ก่อนหน้านี้ Huawei เคยมีสัดส่วนการตลาดสมาร์ทโฟนในจีนถึงราว 40% ของตลาดโดยรวม แต่ก็ตกลงมาเหลือเพียงไม่ถึง 10% ในชั่วกระพริบตา แถม iPhone ซึ่งต่างแย่งชิงตลาดในระดับบนกันอยู่ ก็เข้ามารองรับตลาดของ Huawei เดิมไปได้อย่างเต็มๆ
เกี่ยวกับผู้เขียน : ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน ผู้เชี่ยวชาญที่สั่งสมความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับตลาดจีน มุ่งหวังนำข้อมูลและมุมมอง ความคิดเห็นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ ธุรกิจ การตลาดและอื่น ๆ ที่อยู่ในกระแสของจีนมาแลกเปลี่ยนกับผู้อ่าน เพื่อเราจะไม่ตกขบวน “รถไฟความเร็วสูง” ของการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีน