“อู่ฮั่น”นครแห่งสายน้ำพลังเศรษฐกิจใหม่ของจีน (3)

03 ธ.ค. 2566 | 02:30 น.

“อู่ฮั่น”นครแห่งสายน้ำพลังเศรษฐกิจใหม่ของจีน (3) : คอลัมน์มังกรกระพือปีก โดย...ดร.ไพจิตร วิบูลย์ธนสาร รองประธานและเลขาธิการหอการค้าไทยในจีน หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3945

 

มาคุยกันต่อถึง “ฮั่นหยาง” เมืองประวัติศาตร์อีกแห่งหนึ่ง ที่เป็นส่วนหนึ่งของอู่ฮั่นในปัจจุบัน ...

ฮั่นหยางถือเป็นเขตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมเก่า แต่ก็กำลังได้รับการปรับโฉมสู่การเป็นฐานอุตสาหกรรมล้ำสมัยพร้อมไปกับหลายพื้นที่ ทำให้อู่ฮั่นขยับสถานะสู่การเป็นฮับด้านเทคโนโลยีชั้นนำของภูมิภาคตอนกลางของจีน ซึ่งไว้มีโอกาสผมจะมาแชร์เรื่องนี้กันในรายละเอียด

 

สำหรับท่านผู้อ่านที่เป็น “สายมู” ก็อาจไปเยือนวัดกุยหยวน (Guiyuan) หรือ “กุยหยวนซื่อ” ที่ตั้งอยู่ในเขตฮั่นหยางนี้เช่นกัน วัดนี้ถูกก่อสร้างขึ้นเมื่อปลายราชวงศ์หมิง ต่อเนื่องจนถึงต้นราชวงศ์ชิง โดยมีอายุราว 370 ปี บนพื้นที่ขนาด 12 ไร่ จึงถือเป็น 1 ใน 4 วัดเก่าแก่ที่มีชื่อเสียงของอู่ฮั่น 

วัดกุยหยวนได้รับการก่อสร้างเพิ่มเติมและบูรณะมาอย่างต่อเนื่อง โดยไฮไลต์ก็ได้แก่ วิหารพระอรหันต์ 500 องค์ ที่ปั้นจากดินเหนียวเคลือบทอง แต่ละองค์มีรูปร่างหน้าตาและอากัปกริยาที่แตกต่างกัน 

วัดนี้มีชื่อเสียงว่าเหมาะสำหรับการขอพรด้าน โชค วาสนา และ การค้า โดยผมได้รับการบอกเล่าถึงเทคนิคการสักการะว่า ท่านสามารถเสี่ยงทายเพื่อขอพรจากพระอรหันต์ดังกล่าวได้ โดยให้เราตั้งจิตให้นิ่ง ใช้เวลาเพ่งพินิจไปที่พระอรหันต์ดังกล่าว

และหากชอบพระอรหันต์องค์ไหน ก็ให้นับองค์พระถัดไปตามอายุของเรา และจดชื่อและเลขของพระอรหันต์องค์นั้นไว้ เพื่อมารับใบทำนาย (ภายในวัดไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป) ดูแล้วก็คล้ายกับการเสี่ยงเซียมซีที่บ้านเรานั่นเอง

ในช่วงเวลาปกติ พุทธศาสนิกชนสามารถเข้าไปไหว้พระและบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดแห่งนี้แบบสบายๆ ได้โดยใช้เวลาราว 2-3 ชั่วโมง แต่ถ้าช่วงเทศกาลหยุดยาวก็ขอแนะนำให้นัดสถานที่และเวลา และปล่อยเดินแบบ “ตัวใครตัวมัน” ครับ

ฮั่นหยางยังมีศูนย์จัดแสดงนิทรรศการนานาชาติอู่ฮั่น (Wuhan International Expo Center) ขนาดกว่า 140,000 ตารางเมตร อยู่ในพื้นที่ ผู้อ่านท่านใดที่เคยไปออกงาน หรือ เยี่ยมชมงานแสดงสินค้าใหญ่ที่อู่ฮั่น ก็เท่ากับว่าได้ผ่านไปใช้ชีวิตที่ฮั่นหยางเรียบร้อยแล้ว

งานแสดงสินค้าที่ได้รับความสนใจอย่างมากก็ได้แก่ Wuhan Motor Show ที่จัดต่อเนื่องมากว่า 20 ปี ภายในงานมีการจัดแสดงยานยนต์กว่า 1,000 คัน 120 แบรนด์จากผู้ประกอบการกว่า 300 ราย ทั้งนี้ ในแต่ละปีจะมีรถยนต์รุ่นใหม่ราว 20 รุ่นมาเปิดตัวในงานนี้

อู่ฮั่นถือเป็นแหล่งวิจัยและพัฒนา และฐานการผลิตยานยนต์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของจีน โดยอุตสาหกรรมการผลิตยานยนต์ และ บริการหลังการขายมีมูลค่ากว่า 300,000 ล้านหยวนต่อปี ทำให้อู่ฮั่นได้รับสมญานามว่าเป็น "ออโต้วัลเลย์ของจีน" (China's Auto Valley)

ตงเฟิงมอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น (Dongfeng Motor Corporation) จัดเป็นผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่ที่สุดของอู่ฮั่น และมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในเขตฮั่นหยางนี้เช่นกัน 

กว่า 30 ปีที่ผ่านมา ตงเฟิงได้สร้างผลงานให้กับอู่ฮั่น อันเป็นฐานที่ตั้งไว้มากมาย และก้าวขึ้นเป็นรัฐวิสาหกิจด้านยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในย่านนี้ และจัดเป็นหนึ่งในกิจการยานยนต์ชั้นนำของจีนเช่นกัน

บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันแรกของอู่ฮั่น ภายใต้แบรนด์ “ซีตรอง ฟูกัง” (Citroen Fukang) และในช่วงหลายปีหลัง บริษัทฯ ยังได้ยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยีหลักของตนเอง อาทิ ชิปเกรดรถยนต์ และระบบพลังงานใหม่ ทำให้สามารถนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ออกมาได้อย่างต่อเนื่อง 

นอกจากนี้ ตงเฟิงยังสร้างแบรนด์รถยนต์โดยสารพลังงานใหม่มากมาย เช่น เอ็ม-ฮีโร (M-Hero) เอโอลัส (AEOLUS) และ นาโน (Nano) รวมทั้ง โวยาห์ (VOYAH) ที่จับตลาดระดับบนแบรนด์แรกของอู่ฮั่น และสามารถทำยอดขายรถยนต์พลังงานใหม่ ในปี 2022 ได้ถึง 470,000 คัน เพิ่มขึ้นราว 1.6 เท่าของปีก่อนเลยทีเดียว

คนท้องถิ่นตอบรับแบรนด์เหล่านี้เป็นอย่างมาก เราจึงสังเกตเห็นรถแบรนด์เหล่านี้วิ่งอยู่เกลื่อนเมือง เท่านั้นไม่พอ ในช่วงหลายปีหลัง ตงเฟิงยังประสบความสำเร็จในการส่งออกรถยนต์ไฟฟ้า แบรนด์เหล่านี้สู่ตลาดต่างประเทศอีกด้วย 

ในฐานะ “เจ้าบ้าน” ตงเฟิงแสดงบทบาทเป็นหนึ่งในแกนหลักที่นำเสนอนวัตกรรมยานยนต์อย่างหลากหลายรูปแบบในงาน Wuhan Motor Show ตลอดหลายปีที่ผ่านมา 

ทุกครั้งที่ผมมีโอกาสพาคณะไปสำรวจตลาด และเยี่ยมชมดูพัฒนาการด้านยานยนต์และอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตงเฟิง คณะล้วน “ตื่นตาตื่นใจ” และ “ตื่นเต้น” ไปกับการทดลองนวัตกรรมของบริษัท อาทิ รถไร้คนขับ 

มาถึงวันนี้ ตงเฟิงได้ผลิตรถไร้คนขับหลากหลายรูปแบบ ไล่ตั้งแต่รถเก็บขยะ รถทำความสะอาด รถส่งพัสดุภัณฑ์ รถยนต์นั่งที่นำไปให้บริการแท๊กซี่ไร้คนขับ ไปจนถึง  รถมินิบัส

นอกจากนี้ อีกหนึ่งในไฮไลต์ที่ท่านผู้อ่านไม่ควรพลาดในช่วงงาน Wuhan Motor Show ดังกล่าวก็คือ การจัดกิจกรรมพิเศษ “แสงสีเสียง” พร้อมวงซิมโฟนีออร์เคสตร้าขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งที่ผมเคยเห็นมา  

หอกระเรียนเหลือง (Yellow Crane Tower) ถูกเปลี่ยนเป็นเวทีหลักที่มีชีวิตในการนำเสนอ โดยถูกใช้เป็นจุดฉายภาพรถยนต์รุ่นใหม่สีสันสดใส 3 มิติ และโดยที่งานนี้จัดในช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นช่วงที่อู่ฮั่นมีอากาศเย็นสบาย จึงทำให้มีผู้ชมนับแสนคนเฝ้ารอชม 

                           “อู่ฮั่น”นครแห่งสายน้ำพลังเศรษฐกิจใหม่ของจีน (3)

ขณะที่สถานที่ข้างเคียงก็ถูกใช้ประกอบฉากอย่างยิ่งใหญ่ อาคารหลายพันหลังริมแม่น้ำแยงซีเกียงและแม่น้ำฮั่น ก็เต็มไปด้วยสีสันที่เคลื่อนไหวและปรับเปลี่ยนสีไปมา 

แม้กระทั่ง เนินเต่า (Turtle Hill) และ เนินงู (Snake Hill) ที่อยู่ข้างเคียง หอส่งสัญญาณโทรทัศน์ภูเขาเต่า และท่าเทียบเรือกว่า 40 จุดริมแม่น้ำ ก็ถูกแปลงเป็นส่วนหนึ่งของ “จอยักษ์” ที่ข้อมูลระบุว่าทอดยาวถึงราว 25 กิโลเมตร พร้อมการรังสรรค์แสง สี และ เงา ได้อย่างตื่นตาตื่นใจ

คนจีนเรียกหอกระเรียนเหลืองนี้ว่า “หวงเฮ่อโหลว” (Huang He Lou) ซึ่งถูกยกให้เป็น 1 ใน 3 ของหอโบราณที่สวยที่สุดของจีน และตั้งตระหง่านอยู่บนเนินงู ริมฝั่งแม่น้ำแยงซีเกียง 

หอนี้เป็นเก๋ง 5 ชั้นหลัก และระหว่างชั้นมีชั้นแทรก รวมเป็น 10 ชั้น ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 223 หรือมีอายุกว่า 1,800 ปี โดยได้รับการซ่อมแซมบูรณะมาหลายครั้ง 

ผลจากการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเกียง และการถูกเผาทำลาย ทำให้หอฯ ถูกสร้างขึ้น ณ จุดใหม่ โดยมีโครงสร้างเป็นเหล็กผสมปูนซิเมนต์ ทดแทนโครงสร้างไม้เดิม อย่างไรก็ดี หอฯ นี้ก็จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สำคัญด้านซีกตะวันตกของเขตอู่ชาง ซึ่งสำหรับผมแล้วถือเป็น “แลนด์มาร์ค” ของอู่ฮั่นเสียด้วยซ้ำ

ท่านผู้อ่านที่ชอบนวนิยาย “สามก๊ก” ก็อาจจำได้ว่า หอนกกระเรียนเหลืองแห่งนี้ อยู่คู่กับเมืองอู่ฮั่นมาอย่างยาวนาน โดยซุนกวนตั้งแต่ตอนที่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นอ๋อง ใช้หอฯ นี้เป็นป้อมสังเกตการณ์เพื่อไว้ป้องกันการโจมตีของศัตรู 

กำลังเล่าเรื่องหอนกกระเรียนเหลืองสนุกๆ แต่ยังมีเกร็ดที่ผมอยากแชร์ รอตอนหน้านะครับ ...