วัฒนธรรมอุแว้ แชร์ วัฒนธรรมหลอดแก้ว ฉากที่ 15

สายตาผมเจอ “คำขม” อ่านจบผมก็ “อมยิ้ม” เกร็ดเล็กแต่สเปคจึ้ง “เยาวรุ่น” สงสัยใฝ่รู้จึงไต่ถาม กูรูเพื่อขอความเห็นจาก “ท่านผู้อายุยืนโข!” ว่า “ความแตกต่างระหว่างกรมสรรพากรกับมาเฟียคืออะไร?”
“ท่านผู้อายุยืนโข!” ตอบโดยไม่ลังเลว่า “มาเฟียอย่างน้อยก็ให้การคุ้มครองคุณเมื่อคุณจ่ายเงิน!” (ฮา) 

ผมดูหนังมาเฟียหลายเรื่อง ในเรื่องมักจะเจอว่า เมื่อคนในแก๊งเอาใจออกหาก เจ้าพ่อมาเฟีย จะดึงคอมาจูบแก้มแล้วปล่อยไป คนที่โดนจูบรู้ความหมายว่านี่คือสัญญาณ “จูบมรณะ” (Kiss of death)

อีกเรื่องหนึ่งจำได้ว่ามุกมันมาแปลก ใครยืมตังค์แล้วไม่มีเงินจ่ายคืน เจ้าพ่อมาเฟีย ลงโทษสุดจะพิเรนทร์ สั่งว่า “เอ็งต้องมายืนรอข้าอยู่ที่หน้าประตูคฤหาสน์ทุกเช้า” ลูกหนี้ ก็มายืนรอตามคำบัญชา เจ้าพ่อมาเฟีย เดินโชว์ออกมาหยุดมองหน้า ลูกหนี้แล้ว ขาก…ถุย ใส่หน้าลูกหนี้วันละครั้ง โดนทุกวันจนกว่าจะชำระหนี้ คนดูฮากันตรึมแต่ลูกหนี้ยืนซึมปาดน้ำเมือกด้วยความอัปยศ (อิๆ) 

เมื่อไม่นานนี้ ตำรวจอิตาลีจับกุมตัว ซัลวาโตเร โล ปิคโคโล ผู้ต้องสงสัยเป็นหัวหน้ากลุ่มมาเฟียซิซิลี เสาะหาหลักฐานค้นไปค้นมาเจอ “บัญญัติสิบประการ” ของ “แก๊งมาเฟีย” The Better เอามาแปลละเลงจนเห็นภาพ เนื้อความนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็น “จรรยาบรรณการประพฤติปฏิบัติของสมาชิกมาเฟีย!”

1.ห้ามให้คนนอกมาเสนอตัวกับพวกของเรา ยกเว้นมีคนแนะนำมา

2.ห้ามมองเมียเพื่อนเด็ดขาด

3.ห้ามไปคบหากับตำรวจเด็ดขาด

4.ห้ามไปผับและคลับ

5.หน้าที่สำคัญกว่าสิ่งใดจึงต้องพร้อมใจทำงานให้กับแก๊ง แม้ว่าเมียกำลังจะเบ่งคลอดลูกก็ตาม

6.การแต่งตั้งลำดับขั้นในแก๊งจะต้องได้รับความเคารพนับถืออย่างยิ่ง

7.จะต้องปฏิบัติต่อเมียด้วยความเคารพ

8.เมื่อถามข้อมูลใดๆ คำตอบต้องเป็นความจริง

9.ห้ามนำเงินมาเป็นของตัวเองถ้าหากเป็นของคนอื่นหรือของแก๊งอื่น

10.คนที่มาเป็นสมาชิกแก๊งไม่ได้ คือ ใครก็ตามที่มีญาติสนิทในหมู่ตำรวจ ใครก็ตามที่มีญาติเป็นคนทรยศในแก๊ง ใครก็ตามที่ประพฤติตนไม่ดีและไม่ยึดมั่นในศีลธรรม

ขอปรบมือให้กับท่าน โฆษกของรัฐมนตรีช่วยว่าการ ก.สาธารณสุข ยังแฟร์พอที่จะพูดออกมาเองจากใจว่า “รัฐบาลอิตาลีต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะว่ากลุ่มมาเฟียมักเคลื่อนไหวได้เร็วกว่ารัฐบาลทุกแห่งบนโลกนี้”

เอาว่าแน่ไม่แน่เขาก็กล้าเสี่ยงกระโดดเข้ามาเป็นฮีโร่ รี่เข้าหาทุกบ้านฉับไวกว่า ส.ส. บางประเทศ ในวันที่โควิดมาเยือน มาเฟีย ลงมือแจกจ่าย หน้ากาก ยา และ ของจำเป็น ให้กับ ผู้ยากจน  แถมยังใจดีเสนอเงินกู้แบบปลอดดอกเบี้ยอีกต่างหาก (ขนลุก…คริๆ)

                                  

โรแบร์โต ซาเวียโน นักเขียน และ นักข่าว ตัวยง เมนท์สวนท่านโฆษกทันควันว่า “เวลาคุณหิวมากๆ คุณจะมองหาขนมปัง กับ น้ำดื่ม คุณไม่มานั่งสนใจหรอกว่า มันจะอบจากที่ไหน หรือ ใครเป็นคนแจกจ่าย”

■ การส่งเสริมวัฒนธรรมที่ไม่ดี
           เท่ากับ

■ เราส่งเสริมคนที่ไม่ดีเช่นกัน

■ การส่งเสริมคนที่มีจิตใจไม่ดี
              เท่ากับ

■ เราส่งเสริมวัฒนธรรมที่ไม่ดี 

ผิว่าจะมีท่านใดใคร่จะถามผมว่า ในเมื่อ หัวโจกมาเฟีย เดนาโร ได้รับฉายาน่าปลื้มเปรมปรีว่าเขาเป็น “ดิอาโบลิก” หมายถึง “เลวเหมือนปีศาจ” คิดว่าพวกเขาเหล่านี้เป็นผู้มีวัฒนธรรมหรือเปล่า ผมก็ขอตอบกันตามเนื้อผ้าว่า “เกือบจะไม่มี แต่ก็มีน้อยราวๆ 2O : 8O ผมเชื่ออยู่ตรงที่ คนพวกนี้พูดจริงทำจริง วัฒนธรรมของเขาวางกฎชัดเจน อย่างน้อยที่สุด เขาก็ยังสำนึกอยู่บ้างว่า ผู้ให้ คือ ผู้ได้ ”

“คน” คือ “สัตว์โลกประเภทหนึ่งที่สอนง่ายกว่าเดรัจฉาน” ศัพท์

“เดรัจฉาน” แปลว่า “ขวาง!” ต่างกับ “มนุษย์” คือ “ผู้ที่พัฒนาจิตใจด้วยคุณธรรมช่วยให้จิตใหญ่ใจสูง”

ภรรยารักหมามากกว่าสามี เอาเงินไปซื้อ ปลอกคอทองคำ มาคล้องคอหมา เวลาล่วงเลยไปหลายวัน เพื่อนบ้านกล่าวขานกันทุกทิศว่าสามีด้อยวาสนา หลายวันต่อมา ภรรยาตื่นขึ้นมาหาหมาไม่เจอ ชะโงกไปส่องหาสามีทั่วบ้านก็ไม่เห็น โทรหาก็ไม่รับสาย ตกเย็นถึงจะบรรลุบางอ้อ แลเห็นสามีเดินจูงหมามาแต่ไกล เธอพูดไม่ออกสักคำ สามีเปิดประตูบ้านเข้ามารายงานกิจกรรมวันพลิกโลกกับภรรยาว่า

“ผมคุยกับหมาเข้าใจกันดีแล้ว หมาเค้ากระดิกหางเห็นด้วย ผมกับหมาตกลงกันว่า เราจะผลัดกันสวมปลอกคอทองคำแบบวันเว้นวัน ชาวบ้านเขาปรบมือกันทั้งตลาดเลยนิ!” (ฮา)

วัฒนธรรมต้องมุ่งเน้นความสุขร่วมกันเป็นหลัก อย่าผลักให้ใครล้มโครมจมธรณี