เจ้าของธุรกิจครอบครัวที่ทำงานมายาวนานเพื่อสร้างธุรกิจของตนให้ประสบความสำเร็จด้วยความภาคภูมิใจได้แล้ว แต่เมื่อถึงเวลาส่งต่อธุรกิจไปให้ลูกกลับพบว่ามีความซับซ้อนมากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเกษียณหรือประสบปัญหาด้านสุขภาพก็ตาม เจ้าของธุรกิจจำนวนมากพบว่าการส่งต่อธุรกิจให้ลูกๆเป็นเรื่องยากกว่าการขายให้คนอื่นเสียอีก เนื่องจากการถ่ายโอนกิจการไม่ใช่เรื่องของเงินเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับความรู้สึกของสมาชิกในครอบครัวและมักจะก่อให้เกิดการทะเลาะวิวาทด้วย
ดังนั้นเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต ควรมีการจัดทำแผนเป็นลายลักษณ์อักษรโดยระบุเป้าหมายและขั้นตอนที่จำเป็นอย่างชัดเจน ซึ่งควรจัดทำแผนนี้ก่อนออกจากธุรกิจ อย่างไรก็ตามมีหลายวิธีในการส่งต่อธุรกิจให้กับลูกและไม่มีวิธีใดวิธีหนึ่งดีที่สุด เนื่องจากทุกครอบครัวมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว แผนการถ่ายโอนความเป็นเจ้าของจึงควรคำนึงถึงสถานการณ์เฉพาะของครอบครัวด้วย บ่อยครั้งที่การนำเอาหลายวิธีมาผสมผสานกัน อาจเป็นทางออกที่ดีที่สุดในการตอบสนองความต้องการของครอบครัว ต่อไปนี้เป็นวิธีการหลักๆในการถ่ายโอนธุรกิจไปสู่ทายาทรุ่นต่อไป
การขายธุรกิจ การขายธุรกิจให้กับลูกเป็นวิธีการถ่ายโอนความเป็นเจ้าของที่พบได้บ่อย อย่างไรก็ตามมีลูกๆจำนวนมากที่อาจไม่มีเงินเพียงพอที่จะซื้อธุรกิจทั้งหมดในครั้งเดียว ในกรณีเช่นนี้พ่อแม่อาจต้องจัดหาเงินกู้ยืมสำหรับการขายให้ และอนุญาตให้ลูกชำระเงินคืนในระยะเวลาที่กำหนด อย่างไรก็ตามกระบวนการนี้มีข้อควรระวังคือราคาควรเป็นธรรม ค่าใช้จ่ายด้านภาษี และอำนาจในการควบคุมหากพ่อแม่ยังคงต้องการมีส่วนร่วมในธุรกิจ
มอบธุรกิจเป็นของขวัญ อีกวิธีหนึ่งในการโอนธุรกิจคือการมอบหุ้นบริษัทให้กับลูก ทั้งนี้ธุรกิจขนาดเล็กส่วนใหญ่สามารถถ่ายโอนไปยังทายาทรุ่นต่อไปได้โดยหลีกเลี่ยงภาษีด้วยการให้ไม่ใช่ขาย การมอบธุรกิจให้ลูกเป็นของขวัญนั้นมีข้อดีและข้อเสียหลายอย่าง ข้อดีประการแรกคือการมอบหุ้นบริษัทให้ลูกสามารถช่วยให้พ่อแม่หลีกเลี่ยงภาษีเงินได้ เนื่องจากการโอนประเภทนี้จะไม่ถูกเก็บภาษี ต่างจากการขายธุรกิจตรงที่บริษัทจำเป็นต้องมีรายได้มากกว่าเงินที่ได้รับจริงๆหลังจากที่ทำธุรกรรม เพื่อให้ครอบคลุมภาษีที่ต้องจ่าย ซึ่งการให้ของขวัญจะสามารถหลีกเลี่ยงปัญหานี้ได้
ข้อดีอีกประการหนึ่งก็คือ การมอบธุรกิจเป็นของขวัญจะช่วยลดมูลค่าทรัพย์สินของพ่อแม่และช่วยหลีกเลี่ยงภาษีมรดกในอนาคตได้ ขณะที่ข้อเสียหลักของการมอบหุ้นเป็นของขวัญคือพ่อแม่จะไม่ได้รับเงินสำหรับการเกษียณ เนื่องจากเมื่อพ่อแม่มอบธุรกิจให้ลูกโดยไม่ได้มีการขาย ก็จะไม่ได้รับเงินสดหรือทรัพย์สินใดๆที่สามารถนำไปใช้สำหรับการเกษียณ จึงต้องมั่นใจว่าจะมีรายได้เพียงพอเพื่อในอนาคต
ส่งต่อธุรกิจให้ตามพินัยกรรม อีกวิธีหนึ่งที่ควรทำคือการไม่ทำอะไรเลยตอนนี้และส่งต่อความเป็นเจ้าของธุรกิจให้กับลูก ตามพินัยกรรมของพ่อแม่ แม้ว่าแนวทางนี้จะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในครอบครัวได้ในตอนนี้ แต่ก็อาจจะสร้างความขัดแย้งที่ใหญ่ขึ้นหลังจากที่พ่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว แนวทางนี้ช่วยให้พ่อแม่รักษาอำนาจควบคุมบริษัทได้ แต่ก็อาจสร้างปัญหาได้เช่นกันเมื่อไม่สามารถจัดการบริษัทได้อีกต่อไป และวิธีการนี้จะช่วยให้ลูกได้รับการปรับมูลค่าทรัพย์สินตามราคาตลาดยุติธรรมในวันที่พ่อแม่เสียชีวิต โปรดจำไว้ว่าลูกน่าจะมีความรอบคอบในการบริหารจัดการบริษัทมากขึ้น หากต้องใช้เงินของตัวเองในการดำเนินการ
ส่งต่อธุรกิจผ่านทรัสต์ การโอนธุรกิจให้กับลูกโดยใช้ทรัสต์เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง แนวทางนี้ควรใช้กับผู้เชี่ยวชาญที่คุ้นเคยกับทรัสต์เท่านั้น ซึ่งควรปรึกษากับที่ปรึกษากฎหมายเพื่อทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้เกี่ยวกับการใช้ทรัสต์ในการวางแผนมรดก อีกทั้งเนื่องจากการถ่ายโอนธุรกิจครอบครัวไปสู่รุ่นต่อไปมีความซับซ้อน ควรขอคำแนะนำจากที่ปรึกษาด้านภาษีและพิจารณาการเงินเพื่อการเกษียณของตนอย่างรอบคอบ อย่างไรก็ตามการจัดตั้งทรัสต์ในประเทศไทยได้ถูกยกเลิกไป หากจะตั้งทรัสต์ของครอบครัวจึงต้องไปตั้งต่างประเทศ
ที่มา: Nikki Roser. 2024. How to Pass Your Family Business to The Next Generation. Retrieved from https://www.myfirst.bank/articles/how-to-pass-your-family-business-to-the-next-generation
ข้อมูลเพิ่มเติม: www.famz.co.th
หน้า 17 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 44 ฉบับ 4,000 วันที่ 13-15 มิถุนายน พ.ศ. 2567