เผย 5 เทรนด์การตลาด Commerce รู้ก่อน โตก่อน

18 ก.ย. 2567 | 22:33 น.

เผย 5 เทรนด์การตลาด Commerce รู้ก่อน โตก่อน : ผู้นำวิสัยทัศน์ นางสาวกมลธิดา พรรณพิพัฒน์ Corp communication: IPG Mediabrands

จากช่วงโควิดที่ผ่านมาทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นเปลี่ยนไปหลายอย่าง การเข้ามาของการซื้อของออนไลน์นั้นเข้ามาเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคเข้ามาใช้จ่ายมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าแบรนด์ไหนก็ต้องหันมาไลฟ์ หันมาขาย ผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น ทำให้ตลาด commerce ของประเทศไทยเติบโตอย่างมาก

เผย 5 เทรนด์การตลาด Commerce รู้ก่อน โตก่อน

หากเปรียบเทียบกับการเติบโตของอุตสาหกรรมโฆษณาในปี 2024 มีการเติบโตอยู่ที่ 2% แต่การโฆษณาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce Advertising) กลับเติบโตมากถึง 17% แสดงถึงส่วนแบ่งของการตลาดส่วนของ commerce ที่เป็นสัดส่วนที่สูงกว่ามาก พูดได้เลยว่าหากแบรนด์สามารถจับกระแสตลาด commerce ได้ก่อน มีโอกาสได้ส่วนแบ่งการตลาดไปก่อน

สรุป 5 สิ่งที่น่าสนใจเพื่อเป็นประโยชน์ในการสร้างแบรนด์ให้เพิ่มการขายในช่องทาง Commerce ดังนี้:

1. ตลาด commerce เติบโตขึ้นทุกๆปี โดยเฉลี่ยปีละ 15% และมีแนวโน้มจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเติบโตของ commerce ส่งผลทำให้สินค้าที่ซื้อขายได้ง่ายและคุ้นเคยอย่าง ธุรกิจ Retail อย่างมาก ส่งผลดีต่อ commerce system อย่าง Marketing support & Supporting ( Retail media, Social media, Affiliate marketing, CRM, Data insight)

E-commerce channels, Payment platform และ delivery นอกจากนี้สิ่งที่สนับสนุนให้การเข้าถึงช่องทางของ commerce ได้ง่ายขึ้นคือ Smartphone ดังนั้น “Mobile-First shopping” จึงเป็นช่องทางที่ง่ายต่อการเข้าถึงลูกค้าได้มากที่สุด

เผย 5 เทรนด์การตลาด Commerce รู้ก่อน โตก่อน

2. Commerce เป็นภาพที่เบลอๆระหว่าง on-line & off-line เพราะไม่สามารถแยกการขายสินค้าที่เกิดขึ้นในทางใดทางหนึ่งออกจากกันได้ การทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ส่งผลซึ่งกันและกัน (O2O) ดังนั้นการทำการตลาดที่จะทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จจริงๆคือ “การไม่ได้ focus ไปที่ media ใดที่หนึ่ง แต่คือการหา Media balance ของแบรนด์” และแบรนด์ยังต้องกระจายสินค้าหลากหลายช่องทางเผื่อให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้นอย่างการทำ Omni-channel

3. ผู้บริโภคกว่า 83% ค้นหาข้อมูลของสินค้าผ่าน Brand.com เพื่อช่วยในการตัดสินใจก่อนซื้อสินค้า ทำให้ข้อมูลของลูกค้าและการซื้อนั้นเกิดได้หลายช่องทางทำให้การใช้ Data มาวิเคราะห์ลูกค้า และ AI เข้ามาช่วยจะทำให้การสร้างแบรนด์มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยสิ่งที่จูงใจให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้เป็นอันดับแรกคือ คูปอง ส่วนลด, ส่งฟรี และการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง

โดยสิ่งสำคัญที่แบรนด์ควรทำคือการ สร้าง moment “The golden time” ในช่วงที่ลูกค้ากำลังซื้อของ และการหาช่วงเวลาที่จะเข้าหาผู้บริโภค เช่น การเข้าถึงลูกค้าในช่วงเวลาที่ยืนบน BTS ในช่วงเวลาก่อนไปทำงาน หรือช่วงเวลารอรับลูก และ การการทำให้ลูกค้านึกถึงจนสร้างเป็นนิสัยให้กับผู้บริโภค อย่างช่วงวัน double date ที่ลูกค้าจะรู้ว่าต้องมีโปรโมชั่นเยอะในหลาย platform หรือทุกๆวันพุธจะต้องเข้ามารับคูปอง เป็นต้น

4. “Affiliate คือการปิดการขาย” ทั้งนี้การทำ affiliate ให้ประสบความสำเร็จนั้นจะต้อง test and learn ให้การใช้ Affiliate มีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้นการรู้จักลูกค้า ด้วยการเข้าถึงข้อมูลลูกค้าให้ได้มากที่สุดเป็น “จุดชนะ” ในการแข่งขัน นอกจากนี้ไม่ได้แค่รู้แบรนด์ของเราแต่ยังต้องรู้จักคู่แข่งด้วย

5. ไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่ดันยอดขายได้ประสบความสำเร็จได้ด้วยการ live แต่ “ต้องliveให้ถึง liveให้ทั่ว liveให้เป็น” Live ให้ถึงลูกค้ากับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการด้วยการเลือกใช้ platform ในการ live และถึงช่วงเวลาที่เหมาะสมกับลูกค้าที่จะเข้ามาแต่ละช่วงเวลา, live ให้ทั่ว platform

เพราะกลุ่มลูกค้าของเราจะกระจายอยู่ตามช่องทางต่างๆ และเข้าถึงแต่ละ platform แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลา และ live ให้เป็นด้วยการสร้างลูกแบบการ live ให้ดึงดูดลูกค้า รวมทั้งการใช้ลูกเล่นหรือตัวช่วยของ platform ให้มีประโยชน์ พร้อมกับเลือกคนที่ live ให้ถูกกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน

 

ข้อมูลจากงาน: IPG Thought Leadership

 

คอลัมน์ผู้นำวิสัยทัศน์ หน้า 15 ฉบับที่ 4,028 วันที่ 19 - 21 กันยายน พ.ศ. 2567