จุดพลุ 2568 ปีแห่งการท่องเที่ยวไทย สร้างรายได้-ชื่อเสียงประเทศ

 *** เขย่าข่าวเขย่าขวดสัปดาห์นี้หยุดยาวชดเชยวันที่ระลึกมหาจักรีบรมราชวงศ์ หรือวันจักรี ตรงวันเสาร์ที่ 6 เม.ย.2567 จึงไปหยุดชดเชยวันที่ 8 เม.ย.2567 อันว่าวันจักรีนั้น สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2325 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช หรือ พระรามาธิบดีที่ 1 ทรงเสด็จปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี และเป็นวันครบรอบการก่อตั้งราชวงศ์จักรี ในวันนี้จึงถือเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ที่พวกเราชาวไทยควรให้ความระลึกถึง กว่าจะมาเป็นสยาม ประเทศไทยได้ในทุกวันนี้

*** ส.ส.ฝ่ายค้านอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 152 กฎหมายรัฐธรรมนูญ ติติง ติชม หรือ จะเรียกว่า “หลอกด่า” ไปก่อนก็ว่ากันไป ก็ไม่เป็นที่ระคาย เมื่อรัฐบาลพยายามปลดล็อก คัดชนวนเรื่องร้อนๆ ออกไปก่อน อย่างเรื่องศึกในวงการสีกากี นายกฯ ฉับไว เด้งเข้าทำเนียบไปก่อนทั้ง 2 คน ที่เป็นคู่ขัดแย้ง กระทั่งเรื่อ “เงินดิจิทัล” ก็ได้ผ่อนคลายลงมาด้วยการไม่ใช้เงินกู้มาแจก แต่เป็นการตั้งงบประมาณแทน ผ่อนหนักเป็นเบาลงไป ที่หนักหน่อยเรื่องติดคุกทิพย์ ของจักรวาล “ทักษิณ” ยังเป็นเรื่องที่ตอบโต้ไปมา เมื่อรมว.ยุติธรรมย้อนกลับไปว่า ก็ระเบียบ และการกลับมาของทักษิณก็ออกมา ในสมัยรัฐบาลก่อน ซึ่ง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ลุกขึ้นอภิปรายก็ตอบโต้ว่า “ถ้าคิดเช่นนั้นก็เป็นตรรกะวิบัติ” 

*** เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เปิดทำเนียบรัฐบาล ประกาศคิกออฟตั้งแต่ต้นมือ ให้ปี 2568 เป็นปีแห่งการท่องเที่ยวไทย ที่ สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา บอก “ปี 2568 จะเป็นปีที่ปักหมุดการท่องเที่ยวไทยให้ปังกว่าเดิม ด้วยการเพิ่มมิติใหม่แห่งการท่องเที่ยว และผลักดันให้เกิดการเติบโตอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน” โดยจะ “Up Level” ผ่านประสบการณ์ที่เหนือกว่า พร้อม “Add Story” เพิ่มเรื่องราวมากกว่าที่เคยสัมผัส และ “Create Value” สร้างมูลค่าเพิ่มขึ้นจากความเป็นไทย 

*** ตั้งเป้าหมายนำ 5 กลยุทธ์หลักมามัดใจนักท่องเที่ยว ปี 2568 เป็นปีที่นักท่องเที่ยวจะประทับใจในทุกย่างก้าว ทุกประสบการณ์ที่ได้สัมผัส และสะดวกสบายในทุกทัชพอยต์ (Touch Point) สร้าง “ประสบการณ์ที่ดีในทุกย่างก้าว” มุ่งยกระดับประสบการณ์ โปรโมตการท่องเที่ยวไทยทุกมิติ และสร้างความประทับใจตลอด “Customer Journey” อำนวยความสะดวกไม่ต้องรอคิวนาน มีความปลอดภัย กลยุทธ์ถัดมา “5 สิ่งที่ต้องทำในประเทศไทย” นำร่องคัดสรรเอกลักษณ์ไทย หรือ “เสน่ห์ไทย” ด้วยการนำเสนอเรื่องราว (Story) ให้มากกว่าที่นักท่องเที่ยวเคยรู้จัก ชูมวยไทยจุดขายต่อยอดสู่การออกกำลังกายแบบ คาร์ดิโอ (Cardio) ตามด้วยอาหารไทย วัฒนธรรมไทยเรื่องราวบนเส้นทางศรัทธา วัฒนธรรมสายมูที่กำลังโด่งดัง ตลอดจนผ้าไทย รูปแบบไทยดั้งเดิมและไทยร่วมสมัย ให้เป็นที่ประทับใจของคนทั่วโลก

*** ถัดมาเที่ยว “เมืองหลักและเมืองน่าเที่ยว” เชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว จากเมืองหลักสู่เมืองใกล้เคียง กระจายนักท่องเที่ยวสู่ภูมิภาคต่างๆ และเมืองน่าเที่ยว เช่น เส้นทาง Lanna Culture (เชียงใหม่-ลำพูน-ลำปาง) โปรโมตท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ อารยธรรมล้านนา

ตามด้วยกลยุทธ์เปิดประตูการท่องเที่ยวสู่อาเซียน เชื่อมโยงการเดินทางประเทศเพื่อนบ้านพันธมิตรให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานให้การเดินทางท่องเที่ยวไร้รอยต่อ ให้อาเซียนเป็นจุดหมายปลายทางเดียว หรือ “Single Destination” ด้วย “ASEAN Pass”  

*** อันนี้สำคัญ กลยุทธ์ “ศูนย์กลางแห่งอีเวนต์ระดับโลก” (World Class Event Hub) ผลักดันให้เมืองไทยเป็นศูนย์รวม “ประสบการณ์ระดับเวิลด์คลาส” (World Class Experience) จากการนำอีเวนต์ระดับโลก เข้ามาจัดแสดง ทั้งด้านดนตรี กีฬา อาหาร และไลฟ์สไตล์ ที่จะเกิดขึ้นแน่นอนอย่าง Summer Sonic Bangkok 2024, KAWS Arts, Moto GP, Volleyball World Championship ดึงดูดนักท่องเที่ยว สร้างรายได้ และชื่อเสียงให้กับประเทศ และกำลังเจรจา Tomorrowland จัดในไทยปี 2568, Bangkok Art Biennale ในไตรมาส 2 ปี 2567, Formula E ในไตรมาส 3 ปี 2568, Motocross ในปี 2568 

นอกจากนี้ยังมีอีเวนต์อื่นๆ ที่ต้องการดึงเข้ามาจัดในอนาคต อาทิ Tennis WTA 500, Formula 1 Pylon Air Racing, Formula 1 และ Creamfields เรียกว่าเพียบในด้านอีเวนท์ระดับโลก

 *** ต้องลุ้นงานใหญ่ระดับโลกที่ต้องดึงมาจัดในไทยให้ได้ การท่องเที่ยวทำเงินเร็ว จะไปพึ่งสินค้าส่งออกอย่างเดียว หรือสินค้าเพื่อขายในประเทศ ก็ถูกจีนตีตลาดปางตาย ผู้ประกอบการใหญ่น้อยโอดครวญกันถ้วนหน้า ว่าถึง “ท่องเที่ยว” แล้วก็เลยไปถึง “เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์” ไปเลย แต่ไม่ใช่มองกันในมิติกาสิโน บ่อนพนันเพียงอย่างเดียว มองในมุมอื่นนอกเหนือการพนัน ถ้ารูปแบบคุ้มค่ากับความเสียหายทางสังคม ก็น่าพิจารณา หรือหาทางป้องกันความเสียหายให้รอบคอบรัดกุม ชั่งนํ้าหนักกันดูระหว่างผลดี-ผลเสีย ก็ว่าเอาเถิด

*** งานนี้สำคัญ 10 เม.ย. 2567 ครบรอบ 26 ปี การสถาปนาศาลรัฐธรรมนูญ มีการจัดประชุมทางวิชาการ “ศาลรัฐธรรมนูญกับการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ” เชิญประธาน และรองประธานศาลรัฐธรรมนูญแห่งจอร์เจียมา ปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “ศาลรัฐธรรมนูญกับการพิทักษ์รัฐธรรมนูญ” มีการอภิปรายตามมาด้วยในหัวข้อเดียวกันนี้ จากตุลาการ จากนักวิชาการมากหน้าหลายตา เรื่องสำคัญของกติกาในการปกครองประเทศ ใครสนใจใคร่รู้ไปกันได้ ที่โรงแรมอัศวินแกรนด์คอนเวนชั่น กรุงเทพ ตั้งแต่ 8.30-16.30 น.