*** สภาพอากาศประเทศไทยร้อนฉ่า เรียกว่าไปอยู่ข้างนอกอาคารระหว่างนี้คนแทบละลายกันเลยทีเดียว มีผลการศึกษาที่ www.climatecenterthailand.co ในเครือฐานเศรษฐกิจ รายงานโดยอ้างอิง ผลการวิเคราะห์ของนักวิทยาศาสตร์ ว่าอนาคตอุณหภูมิเฉลี่ยประเทศไทยพุ่งสูง ร้อนเท่า “ทะเลทรายซาฮารา” ภายในปี 2613 กลายเป็น ประเทศที่ร้อนเกินกว่าจะอยู่อาศัยได้ เป็นการวิเคราะห์ สังเคราะห์ ที่ไม่ควรมองข้าม เพราะหมายถึง ฝันร้ายที่ประเทศไทย อาจกลายเป็นประเทศที่ร้อนเกินกว่าจะอยู่อาศัยได้ หากโลกยังคงปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอัตราสูงสุดต่อไป
สภาพอากาศร้อนจัดเช่นนี้ จะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาคเกษตรกรรม และการดำรงชีวิตของประชาชนจำนวนมาก ฉะนั้นและฉะนี้ จงยื่น 2 มือของท่านเข้ามาช่วยแก้ปัญหาโลกร้อนกันเถอะ ว่าแล้วท่านก็ไปเสนอความเห็นกันได้ ว่าท่านได้ทำอะไรที่เป็นการลดก๊าซเรือนกระจกแล้วยังในวันนี้ และท่านได้เสนอให้ฝ่ายที่ดูแลนโยบายทำอะไร ควรทำอะไร ในการแก้ปัญหาโลกร้อน ลองเข้าไปเสนอกันที่เว็บไซต์ www.climatecenterthailand.co
*** อุณหภูมิโลกเดือด ทางกายภาพอย่างเดียว ดูเหมือนไม่พอ แต่ประเทศในอาหรับ-อิสราเอล ทำให้โลกเดือดและอยู่ในความหวาดระแวง เปิดศึกฉะกันยก 1 ยก 2 พักยกวันไหนเมื่อไหร่ เรามีความระอุจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ระอุจากปาเลสไตน์-อิสาราเอล และเพิ่มดีกรีขึ้นเมื่อ อิสราเอล ปะทะ อิหร่าน ไปแล้ว 1 ยก
ไหนจะยังมีเกาหลีเหนือ ไหนจะช่องแคบไต้หวัน แถมใกล้ๆ ย่อมๆ ก็มีเมียนมา ทั้งหมดทั้งมวลส่งผลกระทบเศรษฐกิจโลก ราคานํ้ามัน ราคาทองคำ ดอกเบี้ย บอกเลย มีผลทั้งสิ้นกับเศรษฐกิจไทย ที่ยักแย่ยักยันอยู่แล้ว ดูจากตลาดหุ้นไทยสิ รูดลงไปจนกู่ไม่กลับ และไม่มีใครเชื่อนักวิเคราะห์กันแล้วว่าผ่านจุดตํ่าสุดไปแล้ว
*** ข้างฝ่ายรัฐบาลไม่รู้จะแก้เกม แก้ลำกันอย่างไร จะเปลี่ยนจะปรับ ครม. ก็ต้องผ่านกันหลายด่าน นายกฯ ไฟเขียวแล้วต้องไปต่อให้ “บ้านใหญ่” ได้ตรวจสอบ พยักหน้าโอเคไหม ประเทศไทย โผ ครม.เที่ยวนี้ ไม่ต้องเสนอกันแล้ว เอาว่า ได้ "รมต.คลังใหม่" มาจากประธานตลาดหลักทรัพย์ ที่ปรึกษานายกฯ ก็แล้วกัน เข้ามาก็ต้องวิ่ง สู้ ฟัด ทำงานให้เร็วเหมือนติดปีกทันที โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องรอไม่ได้
นายกฯ นิด เศรษฐาลงพื้นที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ ก็คงเห็น ไปดูของจริง อย่าให้ใครจัดฉากมาเสนอเอาหน้าว่า ดีแล้ว รับฟังข้อมูลจากปากชาวบ้าน พ่อค้าแม่ค้า ของจริง ตัวจริงเสียงจริง แล้วเร่งมือแก้ปัญหาให้เขาเถิด พระเดช พระคุณ ฯพณฯ
*** ลำพัง “แจกเงินดิจิทัล” รัฐบาลก็โดนเสียงคัดค้านหนักหน่วงรอบทิศไม่ใช่น้อย โดยเฉพาะเสียงที่ออกมาจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่ากันตรงๆ คัดค้านทุกเม็ด แถมขู่ แถมเตือน ไม่มีกระสุนในยามวิกฤตินะ กู้เงินเกินพิกัด ต้นทุนการกู้จะสูงขึ้นในอนาคต เอกชนก็จะพลอยลำบากไปด้วย ในแง่ต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้น ยังเปรียบเทียบมาให้ด้วย เงิน 5 แสนล้านดิจิทัล นี่สามารถทำอะไรได้บ้าง พัฒนาบุคลากรการแพทย์กว่า 130,000 ตำแหน่ง โครงการเรียนฟรี 15 ปีนาน 6 ปี รถไฟทางคู่ช่วงนครปฐม-ชุมพร 10 สาย รถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน 2 สาย เอากะเขาสิ แถมพ่วงไปเรื่องใช้เงินจาก ธ.ก.ส. ไปดูเรื่องกฎบัตร กฎหมายให้ถูกต้องใช้ได้หรือไม่ เหมือนกับไปดูของธนาคารออมสินที่ติดขัดในข้อกฎหมาย
*** ไปดูเรื่องแวดวงธุรกิจ สุขภาพ ความงาม กันหน่อย ที่เพจ HEALTH and WELLNESS DESTINATION รายงาน 10 เทรนด์ความงามที่น่าจับตามองปี 2567 โดยความงามที่เรียบง่ายหรูหรา ไม่จำเป็นต้องราคาแพงเสมอไป แต่ต้องตอบโจทย์ มีความคุ้มค่า, ผู้บริโภคคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น, ยอมรับความหลากหลาย โดยไม่แบ่งแยกเพศ, อายุ, ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มคุณภาพตอบโจทย์ได้ตรงจุดมากขึ้น, การดูแลสุขภาพองค์รวม เน้นดูแลทั้งด้านร่างกายและจิตใจ, เริ่มต้นจากความเข้าใจที่ถูกต้องของสภาพผิวและเป้าหมายสุขภาพผิว
ชุมชนออนไลน์ที่มีชีวิตชีวาแหล่งศูนย์รวมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความงาม, การปลดล็อกศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงสุขภาพผิว ผ่านวิทยาจิตและประสาทวิทยา, ความงามที่ไร้ความโหดร้ายต่อสัตว์ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น, เน้นยํ้าถึงบทบาทสำคัญของการเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง และเชื่อถือได้ ใครที่สนใจธุรกิจความงาม สุขภาพ ไม่ควรละเลยเทรนด์นี้...