*** เข้าทำงานกันแล้วเต็มๆ สำหรับครม.รัฐบาลแพทองธาร 1 คึกคักยิ่ง เมื่อเห็น ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกลาโหม ตรวจแถวทหารสวนสนามต้อนรับ รมว.กลาโหมคนใหม่ ที่วาระนี้เผอิญมีโผทหารโยกย้ายประจำปีคราวสิ้นสุดปีงบประมาณ ทดแทนตำแหน่งเกษียณ ก็ต้องขยับกันพรึ่บพรั่บ แต่ส่วนใหญ่เขาโฟกัสกันที่ระดับคุมกำลัง 5 เสือของแต่เหล่าทัพ เที่ยวนี้ว่ากันว่าทัพอื่นลงตัวหมด เหลือแต่ ทร.ที่ยังไม่คลิก “บิ๊กอ้วน” ในฐานะผู้เสนอ ไม่ยอมเป็นทางด่วน หรือทางผ่าน ก็ขอดูก่อนสักสัปดาห์ว่างั้น ก็ต้องคอยดูกันต่อไป
*** ที่น่าสนใจและน่าจับตามองในการแบ่งงานรัฐมนตรีหน้าเดิม แต่ครม.ใหม่ภายใต้ “แพทองธาร” ไปอยู่ที่กระทรวงคมนาคม ที่ว่าการ ส.สุริยะ คนเดิม รมช.ทั้ง 2 คนก็ มนพร เจริญศรี และ สุรพงษ์ ปิยโชติ ไม่ผิดเพี้ยน งานนี้เปลี่ยนแปลงงานในการกำกับดูแลโดย ส.สุริยะ รวบกรมใหญ่ งานใหญ่มาไว้ที่ตัวเองเบ็ดเสร็จ โดยเฉพาะการสั่งการกำกับดูแล การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ที่เดิมมอบ สุรพงศ์ คราวนี้เปลี่ยนนายกฯ ใหม่ สบช่อง นำ ร.ฟ.ท. มาดูแลเอง แน่นอนเนื้องาน ร.ฟ.ท. ที่จะเกิดขึ้นข้างหน้าเรียกว่า มีโปรเจ็กต์ใหญ่เป็นแสนล้าน
*** สุริยะพูดเองต้องนำร.ฟ.ท.มาดูเอง เนื่องจากรัฐบาลแพทองธาร ต้องการเร่งรัดโครงการระบบรางโดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีด) ระยะที่ 2 ช่วงนครราชสีมา-หนองคาย, โครงการรถไฟทางคู่ เพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐาน ตลอดจนการเดินรถให้บริการแก่ประชาชน นี่ไม่นับรวมงานใหญ่ๆ ของเดิมที่กอดไว้แน่น อย่าง กรมทางหลวง งานขยายและพัฒนาท่าอาศยาน AOT นี่ก็ไม่เบา เรียกว่าเต็มไม้เต็มมือเลยทีเดียว นี่ยังดีที่ การบินไทย อยู่ในแผนฟื้นฟู ไม่เป็นรัฐวิสาหกิจภายใต้กำกับ ไม่งั้นก็คงได้กำกับสั่งการไปด้วยอีก ก็อาจมีแผนใหม่ๆ ที่เป็นบิ้กโปรเจ็กเข้ามาอีก
*** ขึ้นชื่อ ส.สุริยะ น่าติดตาม ถ้าไล่ดูประวัติ ตั้งแต่ก้าวมาเป็นนักการเมือง เรียกว่าโลดโผนโจนทะยาน เป็นที่โจทย์ขานและครั่นคร้าม พวกนักการเมืองด้วยกันนี่ชื่นชอบ ชื่นชม ในบรรดา ส.ส. กล่าวขาน ใจถึง พึ่งได้ และเป็นนักการเมืองที่มักอยู่ถูกจุดเสมอ ถูกที่ ถูกเวลาเสมอ มักเป็นรัฐบาล เป็นรัฐมนตรีโดยตลอด ไม่เว้นแม้กระทั่งรัฐบาลทหาร
*** ไปดูที่กระทรวงพาณิชย์กันบ้าง พิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีพาณิชย์คนใหม่ มาแรงฟาดแบงก์ชาติทันทีที่หย่อนก้นลงบนเก้าอี้ บาทแข็ง แบงก์ชาติต้องดูแล ไม่งั้นจะทำให้การส่งออกไทยมีปัญหาว่างั้น เริ่มต้นก็ชี้นิ้วทันที พระเดช พระคุณ ฟาดหนักเลย “ที่ผ่านมาค่าเงินประเทศคู่แข่งอ่อนแต่ของไทยไม่อ่อน มันไม่ถูกต้อง ยังงงผู้ว่าแบงก์ชาติออกมาพูดในเชิงว่าประเทศไทยไม่ต้องไปมุ่งเน้นจีดีพีมาก ไม่รู้ท่านเรียนจบจากที่ไหนมา เพราะเป็นความคิดที่ผิด”
จีดีพี คือ รายได้ของประเทศ หากไม่มีรายได้จะเอาเงินที่ไหนมากระจายให้ประชาชน ฟาดเปรี้ยงๆๆ ผู้ว่าแบงก์ชาติพูดเหมือนคนไม่ค่อยรู้เรื่องอะไร มันเป็นวิธีคิดที่ผิดปกติ จะทำนโยบายแค่ให้คนมีความสุขมันไม่ได้ เพราะถ้าคนไม่มีเงิน ไม่มีรายได้เพิ่ม คนจะมีความสุขได้อย่างไร ยิ่งมีภาระหนี้เยอะ ยิ่งต้องแก้ปัญหา เอ้า กลายเป็นว่า ไปๆ มาๆจะแป็นรัฐมนตรีสายล่อฟ้าคนใหม่ซะละกระมัง
*** นี่ก็มาเงียบๆ แต่ที่กำกับดูแลล้วนงานใหญ่ ประเสริฐ จันทรรวงทอง เดิมแค่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เที่ยวนี้ควบตำแหน่งรองนายกฯ อีกหัวโขนหนึ่ง ซึ่งานในตำแหน่งรองนายกฯ จะถูกมอบหมายให้กำกับดูแลงานที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัล และงานด้านสาธารณสุข สำนักงานทรัพยากรนํ้าแห่งชาติ (สทนช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงงานที่เกี่ยวข้องกับนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ที่จะเป็นเรือธงของรัฐบาลชุดนี้