มหาธีร์ชี้ “นาจิบ” ไม่รอด เหตุทุจริต “1MDB”

- 20 มิ.ย. 61 - สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ได้เผยเเพร่รายงาน “การสัมภาษณ์พิเศษ” มหาธีร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กรณีความคืบหน้าการสอบสวนคดีทุจริตในกองทุนพัฒนามาเลเซีย (1MDB)  ซึ่งมีการควบคุมตัวและสอบสวนนาจิบ ราซัค อดีตนายกรัฐมนตรี รวมทั้งคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดที่มีส่วนพัวพันการทุจริตกองทุนนี้ โดยมีการอ้างว่าเงิน 700 ล้านเหรียญสหรัฐฯ อยู่ในบัญชีธนาคารส่วนตัวของนายนาจิบ

หลังการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อไม่นานมานี้ นาจิบแพ้ต่อมหาธีร์อย่างราบคาบ จากนั้นรัฐบาลชุดปัจจุบันสั่งห้ามนาจิบพร้อมภริยาเดินทางออกนอกประเทศ จากนั้นได้เข้าตรวจค้นบ้านพักและสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับนาจิบและครอบครัวเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน โดยนาจิบถูกกล่าวหาว่าพัวพันการทุจริตเงินกองทุนดังกล่าว

มหาธีร์ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานเกือบจะสมบูรณ์ในการจะดำเนินคดีกับผู้ต้องสงสัยคนสำคัญที่ฉ้อโกงเงินกองทุนนี้ และมีการใช้เงินกองทุนนี้หลายพันล้านเหรียญสหรัฐฯ ไปในทางที่ผิด และนาจิบผู้ก่อตั้งกองทุนนี้นั้นมีบทบาทสำคัญในคดีทุจริต

ผู้นำมาเลเซียคนปัจจุบันระบุว่า นาจิบต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมดต่อกองทุนนี้ เพราะไม่มีสิ่งใดจะกระทำได้หากปราศจากลายเซ็นของเขา เจ้าหน้าที่มีลายเซ็นของนาจิบในทุกข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับกองทุนนี้

“ฉะนั้นนายนายจิบต้องเป็นผู้รับผิดชอบ” มหาธีร์ กล่าว

เจ้าหน้าที่กำลังตั้งข้อกล่าวหานาจิบจากการใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี และอาจรวมถึงข้อหายักยอกทรัพย์ (นำเงินรัฐบาลไป) การทำให้รัฐได้รับความเสียหาย การใช้เงินรัฐบาลไปในการติดสินบนและอีกหลายข้อกล่าวหา

ส่วนนางรอสมาห์ มานซอร์ ภรรยาของนาจิบ ที่ถูกสอบสวนด้วยจากการมีส่วนพัวพันกับการทุจริตกองทุนนี้ โดยเชื่อว่าเงินส่วนหนึ่งอยู่ในมือของนางรอสมาห์นั้น มหาธีร์ระบุว่า “เรารู้เรื่องนี้ แต่การค้นหาเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องยาก เพราะนางรอสมาห์ไม่ได้เป็นคนเซ็น มีแต่นาจิบเป็นคนลงนามเท่านั้น”

ผู้นำมาเลเซีย ระบุว่า คาดหมายว่าจะสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยรายแรกในคดีทุจริตกองทุนนี้ได้ภายในไม่กี่เดือนนี้ และคาดหวังว่า จะเริ่มเปิดการไต่สวนคดีได้ภายในสิ้นปีนี้