จากเดิมที่เคยเป็นสถานีบริการน้ำมันที่เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2501 ปัจจุบัน ปั๊ม“อาร์เอส ออโตโมทีฟ”ในเมืองทาโคมา ปาร์ค มลรัฐแมรีแลนด์ สหรัฐอเมริกา ได้ปรับรูปแบบธุรกิจและผันตัวเองกลายเป็นสถานีชาร์จไฟสำหรับรถไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ และเปิดให้บริการหลังปรับโฉมใหม่เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยผู้บริหารของปั๊มเชื่อว่านี่คือก้าวที่ถูกทิศทางแล้ว
อาร์เอส ออโตโมทีฟเป็นผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันรายแรกในสหรัฐฯที่ปรับตัวเองมาเป็นสถานีชาร์จรถไฟฟ้าอย่างเต็มรูปแบบ สอดคล้องกับความนิยมใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น โดยสถิติชี้ว่า มีรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนในมลรัฐแมรีแลนด์จำนวนมากกว่า 20,700 คัน นอกจากนี้ยังมีรถแท๊กซี่ไฟฟ้า ทำให้ความต้องการสถานีชาร์จไฟมีเพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
การนำเทรนด์ของรัฐแมรีแลนด์
หลังการเข้าไปปรึกษาหารือกับ สถาบันยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle Institute) ทางผู้บริหารของอาร์เอส ออโตโมทีฟ ก็กลับมาเดินหน้าต่อในทันที ทีปสวาร์ โดลีย์ เจ้าของปั๊มเปิดเผยว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม แม้ว่าจะไม่ทำให้ร่ำรวยในชั่วข้ามคืนแต่ก็เป็นสิ่งดีที่ควรทำ ทั้งนี้ ทางปั๊มได้รับเงินสนับสนุนแบบเงินช่วยเหลือให้เปล่า 786,000 ดอลลาร์จากสถาบันยานยนต์ไฟฟ้า (อีวีไอ) และสำนักงานพลังงานแห่งมลรัฐแมรีแลนด์ เพื่อการปรับเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเป็นสถานีชาร์จรถไฟฟ้า
ก่อนหน้านี้ในเขตเมืองทาโคมา ปาร์ค มีสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเพียง 2 แห่ง ลูกค้ามาใช้บริการตลอดทั้งวันและมักจะมีการเข้าคิวยาวเสมอ ส่วนสถานีชาร์จไฟฟ้าแห่งใหม่ของอาร์เอส ออโตโมทีฟ ที่ดัดแปลงมาจากสถานีบริการน้ำมันนั้น ได้รับการออกแบบให้มี 4 แท่นชาร์จ กำลังไฟ 200kW สามารถชาร์จไฟฟ้าให้รถครั้งละ 4 คัน โดยจะใช้เวลาประมาณ 20-30 นาทีสำหรับการชาร์จไฟเต็ม 80%
เนื่องจากการชาร์จไฟฟ้าต้องใช้เวลาดังนั้น ภายในบริเวณสถานีจึงมีที่นั่งพักและร้านค้าสะดวกซื้อที่ลูกค้าจะสามารถเข้าไปนั่งรอเวลาและมีจอภาพให้คอยเช็คว่ารถของตัวเองชาร์จไฟไปถึงไหนแล้ว
นายแลร์รี โฮแกน ผู้ว่าการรัฐแมรีแลนด์ เปิดเผยว่า เป็นความภูมิใจที่รัฐแมรีแลนด์คือผู้นำในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม การปกป้องสภาพภูมิอากาศ การใช้พลังงานหมุนเวียนซึ่งเป็นพลังงานสะอาด รวมถึงการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าและการติดตั้งสถานีชาร์จไฟฟ้า “การเปลี่ยนปั๊มน้ำมันเป็นสถานีชาร์จรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของรัฐเราในการรักษาสิ่งแวดล้อมและยกระดับการขนส่งสมัยใหม่”
สถานีชาร์จไฟฟ้าทั่วสหรัฐฯ
รถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท เทสล่า ที่มีนายอีลอน มัสค์ เป็นผู้บุกเบิกก่อตั้งนั้น มีสถานีชาร์จไฟฟ้าสำหรับรถเทสล่าจำนวนมากกว่า 1,600 แห่งทั่วประเทศ มีหัวจ่ายไฟฟ้าราว 15,000 หัวจ่าย ในอดีตผู้ขับขี่รถไฟฟ้าเทสล่าสามารถนำรถมาชาร์จไฟได้ฟรี แต่ปัจจุบัน ลูกค้าต้องจ่ายเงินค่าชาร์จไฟแล้วเช่นกัน บริษัทยังมีระบบ “พาวเวอร์วอลล์” (Powerwall) สำหรับผลิตและกักเก็บไฟฟ้าที่บ้าน
บริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นๆ เช่น โฟล์คสวาเก้น กำลังมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจสถานีชาร์จไฟฟ้าของตัวเองเช่นกัน ในสหรัฐฯ โฟล์คสวาเก้นมีโครงการความร่วมมือกับองค์กรอิเล็กทริฟาย อเมริกา (Electrify America)ลงทุนวิจัยและพัฒนาในด้านนี้ ขณะเดียวกัน ยังมีบริษัทสตาร์ทอัพอย่าง “ชาร์จพอยท์” (ChargePoint) ที่มีแผนติดตั้งแท่นชาร์จไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ไฟฟ้าจำนวน 2.5 ล้านแห่งภายในปี 2568 หรือในอีก 6 ปีข้างหน้า และบริษัทอีวีโก (EVgo) ที่ประกาศตัวเองเป็นผู้ให้บริการสถานีบริการรถไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ โดยบริษัทมีแท่นประจุไฟฟ้าความเร็วสูงให้บริการ 1,200 หัวจ่ายในสถานีชาร์จไฟฟ้าจำนวน 700 แห่งในเมืองต่างๆทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา