27 ตุลาคม 2563 การประชุมร่วมรัฐสภาซึ่งเป็นสมัยประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องด่วน ขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ตามมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ปัญหาสำคัญที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินที่คณะรัฐมนตรีสมควรจะฟังความคิดเห็นของสมาชิกรัฐสภา ซึ่งวันนี้เป็นวันที่ 2 เป็นวันสุดท้ายที่ให้ ส.ส.และส.ว. ร่วมกันอภิปรายและเสนอแนะแนวทางเพื่อเป็นทางออกของประเทศ หลังจากที่เมื่อวานนี้ (26 ตุลาคม 2563) สมาชิกรัฐสภาอภิปรายไปจำนวน 41 คน ในวันนี้นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ในฐานะประธานที่ประชุม ได้ปิดการประชุมในเวลา 22.00 น.
ทั้งนี้ ที่ประชุมส่วนใหญ่อภิปรายในประเด็นการชุมนุมที่เกิดขึ้นว่า เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ควรต้องเร่งหาทางออกเพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์บานปลาย รวมทั้งต้องการเสนอให้มีการรับฟังและตั้งคณะทำงานสมานฉันท์ที่มาจากหลายภาคส่วน เปิดพื้นที่ให้ทุกฝ่ายโดยเฉพาะกลุ่มผู้ชุมนุมมีพื้นที่ปลอดภัยในการรับฟัง
รวมถึงประเด็นข้อเรียกร้องขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี ลาออก หรือประกาศยุบสภา เพราะเห็นว่า เป็นต้นตอของปัญหาที่เกิดขึ้นและไม่เชื่อมั่นว่า จะพาประเทศสู่ทางออกจากความขัดแย้งได้
ทั้งนี้ นายสุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ทุกคนเป็นศูนย์รวมของปัญหาอยู่ที่ว่าจะเลือกแก้ปัญหาอย่างไร ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปฝ่ายรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมวิสามัญมีประโยชน์ โดยเฉพาะเรื่องรัฐธรรมนูญ แม้ว่าจะมีเวลาน้อยและจำกัด จึงขอเสนอตั้งคณะกรรมการที่จะหาทางออกให้ประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ทิพานัน"ติง "วิสาร"กรีดเลือดใช้ความรุนแรง ไม่ใช่ฮีโร่
"วิสาร เตชะธีราวัฒน์"กลับเข้าสภา ขอโทษ "ชวน-ประชาชน"
เล็งตั้งกก.สมานฉันท์หาทางออกประเทศ
นายกฯปัดตอบข้อเสนอตั้ง "คกก.สมานฉันท์" หาทางออกปท.
อย่างไรก็ดี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา กล่าวว่า ญัตติตามมาตรา 165 ที่รัฐสภาเสนอมาใช้เวลาในการอภิปราย 2 วันถือว่า จบสิ้นแล้วเรื่องนี้ไม่มีการลงมติ จึงไม่มีการสรุป
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวก่อนปิดการประชุมฯว่า โดยขอบคุณสมาชิกรัฐสภาทุกคนที่มาร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศ ซึ่งในฐานะที่เป็นนายกฯนั้น ยอมรับได้ที่มีผู้กล่าวโจมตีการทำงานในหลายๆด้านของรัฐบาลซึ่งรัฐบาลก็พยายามแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจในทุกมิติแบบค่อยเป็นค่อยไป พร้อมกล่าวยืนยันว่า กรณีการชุมนุมของเยาวชนนั้น ตนมองเป็นลูกเป็นหลาน และนิสิตและนักศึกษาทุกคน คือ พลังของแผ่นดินในวันข้างหน้าจึงควรสร้างความเข้าใจกัน เพราะทุกคน คือ เสียงหนึ่งของประเทศไทย ทั้งนี้ ส่วนตัวยอมรับฟังซึ่งอาจมีทั้งเรื่องที่ทำได้และทำไม่ได้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวด้วยว่า การชุมนุมทางการเมืองในกรุงเทพฯที่ผ่านมา ไม่โทษใคร แต่ข้อสังเกตว่า มีเบื้องหลังหรือไม่เพราะอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและบรรยากาศเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ต้องหาวิธีแก้ไข ยืนยันว่า จะไม่ตัดช่องน้อยแต่พอตัวเพื่อหนีปัญหา จะไม่ละทิ้งหน้าที่ด้วยการลาออกในยามที่ชาติบ้านเมืองมีปัญหา จะยังคงแก้ไขปัญหาต่างๆที่ยังรออยู่อย่างเร่งด่วน