เอกชนขอรัฐฉีดวัคซีนโควิดเอง พร้อมเสนอ4แผนเร่งด่วน

16 มี.ค. 2564 | 04:44 น.
อัปเดตล่าสุด :16 มี.ค. 2564 | 08:46 น.

เอกชน ขอรัฐฉีดซีนโควิดเอง ย้ำเอกชนมีความพร้อมและจะจ่ายค่าใช้จ่ายเอง ขอเพียงภาครัฐเป็นตัวกลางในการจัดหาวัคซีนให้  ระบุการกระจายวัคซีนของภาครัฐในขณะนี้ล่าช้ามาก  พร้อมเสนอ4แนวทางเร่งด่วน

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกมีการฉีดวัคซีนไปมากแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษกิจโลก ขณะเดียวกันไทยจำเป็นต้องมีแผนการเปิดประเทศที่ชัดเจน เพื่อรองรับการกลับมาของเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้ เศรษฐกิจโลกกำลังจะฟื้นแล้ว ประเทศไทยเองต้องเตรียมพร้อมรับการฟื้นตัวดังกล่าวได้ทันหรือไม่ จะเปิดประเทศทันหรือไม่ ภาครัฐจะมีการฉีควัคซีนให้เร็วสุดอย่างไร ซึ่งเรื่องนี้ภาคเอกชนพร้อมที่จะเข้าไปช่วยหากภาครัฐเปิดโอกาสให้ ทั้งแผนการกระจายวัคซีน เพราะสิ่งสำคัญคือทำอย่างไรให้วัคซีนมีการใช้โดยเร็วและมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีโรงพยาบาล เอกชนที่มีกำลังมีความพร้อมยินดีช่วย โดยที่ภาครัฐเป็นตัวกลางในการจัดหาวัคซีนได้หรือไม่เพื่อสร้างความมั่นใจและลดความเสี่ยง 

เอกชนขอรัฐฉีดวัคซีนโควิดเอง  พร้อมเสนอ4แผนเร่งด่วน

เอกชนกว่า600แห่งมีความพร้อมที่จะมีส่วนร่วมและจ่ายค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งขณะนี้เอกชนได้รวบรวมข้อมูลในการที่จะไปคุยกับรัฐบาล ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการคุยไปบ้างแล้ว และรัฐบาลก้เห็นด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องค่อยๆทำไป  ซึ่งเอกชนก็ประสานกับผู้ผลิตยาหลายๆบริษัทแล้วรวมไปถึงประสานกับรัฐบาลว่ามีบริษัทยานี้ สามารถซื้อขายได้รัฐบาลเห็นด้วยหรือไม่ ซึ่งโรงพยาบาลเอกชนก็รับซื้อจากองค์กรเภสัชมาให้และเอกชนก็ทำคอนแทร็กกับโรงพยาบาลเอกชน ส่วนจะยี่ห้อใดก็ได้”

 

 

 

สำหรับแผนเร่งด่วนในขณะนี้ คือ แผนบริหารจัดการวัคซีนที่ชัดเจน โดยหอการค้าไทยเสนอ 4 แนวทางสำหรับเรื่องดังกล่าว ได้แก่ 1) การกระจายวัคซีนอย่างทั่วถึง โดยในภาคธุรกิจนั้น กลุ่มที่มีความเสี่ยงในธุรกิจบริการ ที่ต้องมีการติดต่อทั้งกับคนไทยและคนต่างชาติ ควรได้รับการฉีดเป็นลำดับต้น ๆ 2) รัฐต้องมีแผนกระจายวัคซีนที่ชัดเจน เพื่อให้เอกชนสามารถบริหารจัดการธุรกิจ ให้สอดคล้องกับแผนการกระจายวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3) เร่งฉีดอย่างรวดเร็ว ซึ่งเอกชนสามารถร่วมทำแผนการกระจายวัคซีน เพื่อให้เข้าถึงประชาชนอย่างรวดเร็ว และบริษัทที่มีกำลัง ก็ยินดีจ่ายค่าวัคซีนให้พนักงานเอง ทั้งนี้ ตามที่รัฐบาลอยู่ระหว่างจัดหาและกระจายการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ให้แก่ประชาชน และสนับสนุนให้ภาคเอกชนจัดหาวัคซีนเพื่อฉีดให้แก่พนักงานของตนเอง โดยสถานพยาบาลของรัฐ หรือโรงพยาบาลเอกชนนั้น หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ทำการสำรวจความต้องการของสถานประกอบการ ซึ่งขณะนี้รวมได้ประมาณ 750,000 คน และคาดว่าทั้งหมดประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งเราจะนำปริมาณความต้องการนี้ ไปหารือกับภาครัฐในการจัดหาวัคซีน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเปิดประเทศปลอดภัยต่อไป และ 4) การสื่อสารสร้างความมั่นใจ โดยทุกฝ่ายต้องช่วยกันสื่อสารชี้แจงถึงความปลอดภัยของวัคซีน ซึ่งจะเป็นแนวทางในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยให้เร็วยิ่งขึ้น

 

“แผนการฉีควัคซีนของรัฐบาลขณะนี้ฉีคให้กับประชาชนเพียง40,000โดสต่อเดือน ซึ่งถือว่าน้อยมาก เพราะแผนแผนกระจายวัคซีนของรัฐบาลจะต้องกระจายเดือนละ10ล้านโดส 6เดือน60ล้านโดส สามารถฉีดได้30ล้านคน ตกวันละ3แสนโดสแต่ละเดือนจะเริ่มเมื่อไหร่และจะต้องครอบคลุมประชาชนกว่า60ล้านคนเมื่อไหร่ ซึ่งถ้าเริ่มเกินพฤษภาคม -มิถุนายน ก็ดี ซึ่งถ้าแผนกระจายวัคซีนเดือนละ10ล้านโดสได้ และต้องจัดหาวัคซีนใหได้100ล้านโดสที่ไหนเมื่อไหร่ ทั้งนี้เอกชนมองว่าปลายๆไตรมาส4 เศรษฐกิจไทยน่าจะเริ่มกลับมา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเอกชนคงไม่รอคงต้องหาทางออกอื่นๆ เช่นการค้าออนไลน์ ”