วันที่ 10 ม.ย.2564 นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนมั่นใจว่าส.ส.พรรคร่วมรัฐบาลจะให้ความเห็นชอบ พ.ร.ก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 5 แสนล้านบาทอย่างแน่นอน ทั้งนี้ รัฐบาลมีความจำเป็นที่จะต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูเยียวยาประเทศซึ่งได้รับผลกระทบจากโควิด-19 พ.ร.ก.ดังกล่าวมีการกำหนดแผนการใช้เงินกู้อย่างชัดเจน การใช้จ่ายต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ภายใต้แผนงานหรือโครงการตามบัญชีแนบท้ายพระราชกำหนด ซึ่งประกอบด้วย 3 แผนงาน ได้แก่
1.แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาการระบาดของ โควิด-19 วงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการแพทย์และสาธารณสุข การวิจัยและพัฒนาวัคซีนภายในประเทศ
2.แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือ เยียวยา หรือชดเชยให้แก่ประชาชนในทุกสาขาอาชีพ ซึ่งได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 วงเงิน 300,000 ล้านบาท เพื่อบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน ช่วยผู้ประกอบอาชีพและผู้ประกอบการ สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง
และ 3. แผนงานหรือโครงการที่มีวัตถุประสงค์เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 วงเงิน 170,000 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับแผนงาน/โครงการ เพื่อรักษาระดับการจ้างงาน กระตุ้นการลงทุนและการบริโภค
นายธนกร กล่าวอีกว่า ตนผิดหวังกับพรรคร่วมฝ่ายค้านมาก ที่ไม่เห็นด้วยกับการกู้เงิน5แสนล้านบาท ทั้งๆ ที่รู้ว่าประชาชนกำลังได้รับความเดือดร้อนจากวิกฤติโควิด-19 รัฐบาลจำเป็นต้องนำเม็ดเงินไปช่วยประชาชน แต่ก็ยังคัดค้านอีก ถือว่าใจดำอำมหิตมากๆ นอกจากนี้ ตนเห็นส.ส.พรรคร่วมฝ่ายค้านบางพรรคอภิปรายด้วยพฤติกรรมที่ไม่ค่อยจะดีนัก ใช้วาจาไม่ให้เกียรติสภาฯ และท่านนายกฯ เลย ทำตัวอวดฉลาด แต่แท้จริงโง่เขลาเบาปัญญา การใช้เม็ดเงินพล.อ.ประยุทธ์ใช้อย่างคุ้มค่า ไม่ให้มีการทุจริตเด็ดขาด ฝ่ายค้านก็สามารถตรวจสอบได้
ทั้งนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางคนพยายามอภิปรายสร้างภาพให้ดูเหมือนว่าท่านนายกฯ กู้มาใช้เอง ทั้งที่กู้มาเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชน ส่วนเงินกู้ 1 ล้านล้านบาทที่ผ่านมาก็เอาไปใช้อย่างคุ้มค่า ชัดเจน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด ทั้งด้านสาธารณสุข เยียวยาฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ทุกโครงการเป็นรูปธรรม ไม่ได้กู้มาโกงเหมือนรัฐบาลในอดีต เชื่อว่าประชาชนทั่วประเทศทราบดี คงมีแต่ฝ่ายค้านที่ยังแกล้งโง่อยู่ทุกวี่วัน