“จุรินทร์” ส่งทีมเช็กสต๊อกยางเอกชน

12 ก.ย. 2563 | 05:00 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ก.ย. 2563 | 07:45 น.

ฟิตจัด ไม่เว้นวันหยุด “จุรินทร์” จัดหนักดันราคายาง! ตั้งคณะทำงาน 4 ฝ่ายลุยตรวจสต๊อกที่ผู้ประกอบการ ทั่วประเทศ ใช้สิทธิ์รัฐกู้ดอกเบี้ยต่ำ หวังกระตุ้นการรับซื้อยางจากเกษตรกร

ในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ราคายางมีความผันผวน แนวโน้มต้ำ วันนี้ (12 ก.ย.63)  นายจุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงได้ประชุมทุกภาคส่วน ที่เกี่ยวข้องกับยางพารา ทั้งชาวสวน ส่วนราชการ การยางแห่งประเทศไทย ผู้ซื้ออุตสาหกรรมแปรรูปและสมาคมที่เกี่ยวข้องกับยางพารา  โดยที่ประชุมได้หารือแนวทางในการกระตุ้นการซื้อขายและพยุงยกระดับราคายางพารา เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรและอุตสาหกรรมยางพาราในประเทศ พบว่าความต้องการยางมีแนวโน้มสูงขึ้นจากการฟื้นตัวของประเทศจีนที่เป็นผู้ใช้ยางรายใหญ่ โดยเฉพาะในส่วนของภาคอุตสาหกรรมรถยนต์และถุงมือยาง

จุรินทร์  ลักษณวิศิษฏ์

 

นายจุรินทร์   เผยว่า ปัจจัยที่มีผลกระทบทำให้ราคายางแต่ละชนิดมีความเคลื่อนไหวผันผวน เกิดจากการนำน้ำยางข้นไปใช้ผลิตถุงมือยางมากขึ้น ปริมาณยางแผ่นดิบในตลาดลดลง และปัญหาขาดแคลนแรงงานกรีดยาง ทำให้การทำยางแผ่นลดลง ไม่เพียงพอกับความต้องการ ที่ประชุมจึงได้มีข้อสรุปร่วมกันในการกำหนดมาตรการเพื่อพยุงราคายางในประเทศ คือ  1.ตรวจสอบสต็อกยางที่กำหนดให้ผู้ค้าต้องแจ้งปริมาณตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) โดยจะจัดตั้งคณะทำงานร่วมระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า เพื่อจัดทีมงานตรวจสอบปริมาณยางคงเหลือในสต็อกของผู้ประกอบการทั่วประเทศ โดยจะตรวจสต็อกของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำของภาครัฐด้วย ซึ่งจะเริ่มปูพรมตรวจสอบทั่วประเทศภายในสิ้นเดือนกันยายน 2563 นี้

 

 

“จุรินทร์” ส่งทีมเช็กสต๊อกยางเอกชน

 

2. ให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เร่งรัดโครงการโค่นยางและปลูกพืชทดแทน โดยให้หามาตรการจูงใจเพิ่มให้เกษตรกรที่หันไปปลูกพืชเศรษฐกิจอื่นแทนยาง เพื่อลดพื้นที่ปลูกยางให้บรรลุเป้าหมายโดยเร็ว 3. ให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) พิจารณาปรับปรุงเงื่อนไข รูปแบบการเข้าร่วมโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำที่ภาครัฐให้การสนับสนุนแก่สถาบันเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้ส่งออก ในวงเงิน 65,000 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นการซื้อขายยางในระบบ ให้การดูดซับปริมาณยางมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

 

“จุรินทร์” ส่งทีมเช็กสต๊อกยางเอกชน

 

4. กระทรวงพาณิชย์จะขยายตลาดส่งออก โดยกำหนดเจรจาธุรกิจทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์เพื่อซื้อขายยางพาราและผลิตภัณฑ์ ในวันที่ 30 กันยายน 2563 และ 1 ตุลาคม 2563 นี้ และในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2563 กระทรวงพาณิชย์จะร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จัดงาน “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด Thailand Rubber Expo ” เพื่อกระตุ้นการซื้อขายยาง รวมทั้งผลิตภัณฑ์ และสินค้านวัตกรรม ที่สามารถนำไปมอบเป็นของขวัญ เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2564 ได้  โดยเป็นการจัดงานวิถีใหม่ ที่มีการจัดนิทรรศการ การแสดงสินค้า และการเจรจาธุรกิจซื้อขาย ทั้งระบบออฟไลน์และออนไลน์ หากพบว่า มีการกดราคา หรือมีพฤติกรรมเป็นการเอาเปรียบทางการค้า ซึ่งกรมการค้าภายในจะประสานสำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้าดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1569 ที่ผู้ประกอบการใช้สิทธิ์รัฐกู้ดอกเบี้ยต่ำ หวังกระตุ้นการรับซื้อยางจากเกษตรกร

“จุรินทร์” ส่งทีมเช็กสต๊อกยางเอกชน

อนึ่ง การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) รายงานสถานการณ์ราคายางพารา ณ วันที่ 11 กันยายน 2563 ราคาประมูลเฉลี่ย ณ ตลาดกลาง ยางพารายางแผ่นดิบอยู่ที่ 51.52 บาท/กก. ราคายางแผ่นรมควันอยู่ที่ 53.55 บาท/กก. ราคายางมีแนวโน้ม ปรับตัวลดลง จากราคาน้ำมันดิบลดลง แนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันยังคงซบเซาในขณะนี้ ราคาล่วงหน้าต่างประเทศปรับตัว ลดลงตามประเทศไทย ค่าเงินเยนที่แข็งค่า เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เป็นปัจจัยกดดันราคายาง อย่างไรก็ตามจากการที่ค่าเงินบาทอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและการที่นักลงทุนช้อนซือหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ร่วงอย่างหนัก รวมถึงปริมาณฝน วันที่ 12-15 กันยายน มีฝนเพิ่มขึ้น แรงงานกรีดยางและผลิตยางแห้งขาดแคลนถุงมือยางยางยืดและสินค้าจากยางพารายังมีความต้องการอยู่ นักลงทุน ยังคงต้องติดตามเศรษฐกิจโลกอย่างใกล้ชิด

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

วันเดียว “ยางแผ่น” ร่วง 3.89 บาท/กก.