จากการที่รัฐบาลได้มีการรณรงค์ให้ปลูกข้าวพื้นนุ่ม ทำให้สมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) มีความกังวลว่าผู้บริโภคจะมีความสับสนในเรื่องคุณภาพข้าวระหว่าง "ข้าวหอมมะลิ" กับ "ข้าวพันธุ์นุ่ม" เพื่อให้ได้ของแท้ ก็คือ "ข้าวหอมมะลิ" จึงมีการรณรงค์ให้ซื้อผ่านสมาชิกโรงสีในสมาคม 160 โรง และไม่เห็นด้วยที่จะมีการส่งเสริมให้ชาวนาปลูกข้าวนุ่มมาในพื้นที่อีสาน นั้น
กรณีดังกล่าวนี้ นายสานิตย์ จิตต์นุพงศ์ อุปนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยว่า จากการที่มีพ่อค้าโรงสีบางกลุ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรืออีสานเป็นห่วง “ข้าวขาวพื้นนุ่ม” ปลอมปนหอมมะลิ ผมเสนอให้พ่อค้าโรงสีเหล่านี้ เข้ามาส่งเสริมชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิ ด้วยการ "ประกันราคาขั้นต่ำรับซื้อข้าวจากชาวนา" ดูแลชาวนา ซึ่งง่ายมาก เพียงโรงสีละ 20,000 ไร่ กลุ่มของท่านมีสมาชิก 160 โรงสี ก็สามารถดูแลชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิได้ถึง 3 ล้านไร่ ทั้งนี้ให้ใช้เกณฑ์ราคารับซื้อสูงกว่าราคาประกันของรัฐบาล เพื่อให้เกิดแรงจูงใจ“ประกันราคาขั้นต่ำ 15,000บาทต่อตัน ” รับว่าท่านจะได้ข้าวได้คุณภาพ ไม่ต้องกังวล อีกด้านหนึ่งเป็นความจริงหรือ โรงสี 160 โรง สีแค่ข้าว กข6 และข้าวหอมมะลิ อย่างเดียวเท่านั้น หรือท่านสีข้าวชนิดอื่น หรือรับซื้อข้าวสารข้าวเปลือก ชนิดอื่นด้วย
“ยกตัวอย่าง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีพื้นที่ปลูกข้าวหมะลิประสบภัยแล้งซ้ำชาก พ่อค้า โรงสี ก็สามารถดูแลความทุกข์ใจในพื้นที่ของท่านได้ทันที สำหรับจังหวัดอื่นก็เช่นกัน ชาวนาปลูกข้าวหอมมะลิอินทรีย์ท่านก็ซื้อในราคาข้าวอินทรีย์ เพราะที่ผ่านมาเราขายในราคาเดียวกับข้าวเคมี”
นายสานิตย์ กล่าวว่า ความเอื้ออาทรเหล่านี้จะเป็นเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ไม่ได้มาขัดขวางการพัฒนาพันธุ์ข้าวของประเทศ และเมื่อท่านลงมือทำให้เห็นเป็นประจักษ์แล้ว ผู้บริโภคต้องสนับสนุนท่านแน่นอน