เตือนระดับแม่น้ำเพชรบุรีสูงขึ้น

10 ต.ค. 2563 | 11:04 น.

กรมชลประทาน เตือนคนเมืองเพชร ระวังระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น หลังมีฝนตกหนักทางตอนบน เร่งระบายน้ำผ่านคลองระบายน้ำ D.9 ออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล

 

ดร.ทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในลุ่มน้ำเพชรบุรีว่า หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณภาคใต้ตอนบนทำให้มีฝนตกหนัก ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำแก่งกระจานมากขึ้น ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 315 ล้านลูกบาศก์เมตร (44 % ของความจุอ่างฯ) ปิดการระบายน้ำ ส่วนอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์มีปริมาณน้ำในอ่างฯ 38 ล้านลูกบาศก์เมตร (90 % ของความจุอ่างฯ) ระบายน้ำ 20 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และอ่างเก็บน้ำห้วยผากมีปริมาณน้ำ 15 ล้านลูกบาศก์เมตร (56 % ของความจุอ่างฯ) ปิดการระบาย ทั้งนี้ จากการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ ประกอบกับปริมาณน้ำที่เกิดจากฝนตกด้านท้ายอ่างฯ ส่งผลให้ลำห้วยแม่ประจันต์ ที่สถานีวัดน้ำท่า B.6A บริเวณบ้านท่าเกวียน มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 259 ลบ.ม./วินาที ส่วนแม่น้ำเพชรบุรี ที่สถานีวัดน้ำท่า B.9 บริเวณ บ้านสารเห็ด มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 55.4 ลบ.ม./วินาที แนวโน้มระดับน้ำเพิ่มมากขึ้น คาดว่าปริมาณน้ำดังกล่าวจะเดินทางมาถึงเขื่อนเพชรภายในเย็นวันนี้(10 ต.ค. 63)

 

โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรี ได้บริหารจัดการน้ำ โดยการผันน้ำบริเวณด้านเหนือเขื่อนเพชร เข้าสู่คลองส่งน้ำสายใหญ่ 3 ระบายน้ำไปยังคลองระบายน้ำ D.9 ในอัตรา 80 ลบ.ม/วินาที พร้อมกับเพิ่มการระบายน้ำเข้าคลองส่งน้ำอีก 3 สาย ในอัตรารวม 45 ลบ.ม/วินาที ก่อนระบายออกสู่ทะเลให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ ยังได้ควบคุมปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเพชร ลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ในเกณฑ์ประมาณ 120-150 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ ยังคงมีปริมาณน้ำที่เกิดจากฝนตกท้ายอ่างเก็บน้ำไหลหลากลงสู่เขื่อนเพชรค่อนข้างมาก ทำให้ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด หากมีแนวโน้มปริมาณน้ำเพิ่มมากขึ้น จะได้แจ้งให้ประชาชนทราบโดยเร็วต่อไป กรมชลประทาน ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในเมืองเพชรบุรีและอำเภอบ้านแหลมแล้ว 15 เครื่อง พร้อมกับสำรองเครื่องสูบน้ำที่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมได้ทันทีไว้ด้วยแล้ว

 

เตือนระดับแม่น้ำเพชรบุรีสูงขึ้น

 

กรมชลประทาน ได้ประสานแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง พร้อมทั้งประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่งแม่น้ำเพชรบุรีติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับประชาชน ทั้งนี้ หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่โครงการชลประทานใกล้บ้าน หรือโทรสายด่วนกรมชลประทาน 1460 ชลประทานบริการประชาชน ได้ตลอดเวลา