ทั้งนี้คนไทยอย่างน้อย 50 ล้านคนต้องได้รับการฉีดวัคซีนเข็มแรกภายในเดือนตุลาคมนี้ ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายที่เกรงการจัดหาวัคซีนจะทำได้ไม่เพียงพอตามเป้าหมาย ขณะที่โควิดกำลังกลายพันธุ์อาจรับมือไม่ไหว ซึ่งการนำร่องเปิดประเทศเริ่มจาก “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้ หากทุกฝ่ายคุมเข้มได้ไม่ดีพออาจก่อให้เกิดการระบาดของโควิดในระลอกที่ 4 และอาจต้องปิดประเทศอีกครั้งนั้น
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย เผยในการให้สัมภาษณ์กับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขอสนับสนุนนายกรัฐมนตรีในเรื่องการเปิดประเทศ ถือเป็นสัญญาณที่ดี เพราะอย่างน้อยก็กล้าตัดสินใจ มีความมุงมั่น และมีความชัดเจนว่าจะเคาน์ดาวน์เปิดประเทศใน 120 วัน ซึ่งการที่นายกรัฐมนตรีกล้าประกาศเช่นนี้ก็แสดงว่าต้องมีความมั่นใจว่ามีวัคซีนอยู่ในมือพร้อมแล้ว ส่วนเรื่องที่ต้องสอดรับกับที่นายกฯประกาศก็คือ จะทำอย่างอย่างไรให้คนกล้ามาฉีดวัคซีนให้ได้จำนวนมากกว่า 50-70% ของจำนวนประชากรอย่างนี้ เป็นต้น
“เรื่องเกี่ยวกับการรองรับการกระจายและการฉีดไม่น่ามีปัญหา ขอให้มีวัคซีนเข้ามา ทุกฝ่ายก็สามารถที่จะรองรับได้ แม้ว่าจำนวนจะเยอะมาก หรือกะทันหันมาก ก็ยังมั่นใจว่าทุกภาคส่วนจะทำได้ ส่วนเรื่องที่ 2 ต้องไปดูว่าประเทศอื่นเขาเปิดประเทศอย่างไร เพราะมีบางประเทศเปิดแล้วปิด ปิดแล้วเปิดใหม่ เราน่าใช้เป็นบทเรียน อย่างไรก็ดีระบบสาธารณสุขไทยถือว่ามีความเข้มแข็ง แต่ก็ต้องไปเรียนรู้ว่าประเทศอื่นเขามีมาตรการป้องกันอย่างไรบ้างก่อนที่มีจะมีการเปิดประเทศ ซึ่งในรายละเอียดทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปทำหน้าที่ของตัวเอง”
-เชียร์ให้เปิดประเทศได้จริงใน 120 วัน
ใช่ครับ แต่ก่อนเปิดประเทศใน 120 วัน ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้จะมีการเปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์”นำร่อง ก็ภาวนาขออย่าให้เลื่อนแล้วกัน ซึ่งได้ทำหนังสือเรียนเชิญท่านนายกรัฐมนตรีไปเป็นประธาน เพราะของเรามี HUG THAIS HUG PHUKET ที่ทำเรื่องภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์อยู่แล้ว โดยได้เตรียมงานร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) รวมถึงห้างค้าปลีก และเอกชนในพื้นที่ในการทำโปรโมชั่นด้วยกัน เพื่อโปรโมตให้คนเข้ามาที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ โดยการทำโปรโมชั่นในลักษณะของ ททท.ก็จะมีการแจกคูปอง และมาแลกเป็นเงิน ส่วนของเราพวกร้านค้าต่าง ๆ ก็จะร่วมลดราคา เป็นต้น และมีการรวบรวมของขวัญจากในพื้นที่มาแจกให้ฟรี พวกสินค้าชุมชนต่างๆ เพื่อเชียร์ให้คน กิน ช้อป ใช้ ของไทย เป็นต้น ก็เตรียมงานกันเยอะมาก และทางททท.และรัฐบาลก็เตรียมตัวจะไปรับนักท่องเที่ยวที่สนามบินในไฟล์ทชาวต่างชาติที่จะเข้ามา เป็นต้น
-ถ้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์สำเร็จก็จะขยายไปจังหวัดอื่น ช่วยฟื้นเศรษฐกิจได้มาก
ใช่ ตรงนี้ต้องเปิดเพื่อเป็นแบบอย่างอันหนึ่ง และถือเป็นการทดสอบระบบ หากสำเร็จสามารถไปเชื่อมการท่องเที่ยวไปที่อื่น เช่น กระบี่ พังงา ถือเป็นการทดสอบระบบที่ดีที่จะทำให้เราจะเปิดประเทศได้ ขณะเดียวกันจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับทั่วโลกเห็นว่า เมืองไทยปลอดภัย ขอให้มาเที่ยว
ขณะเดียวกันถ้าเดือนตุลาคมเราเปิดประเทศได้ โดยปกติในปีก่อนที่จะเกิดโควิด(2562) ต่างชาติมาเที่ยวไทยเกินกว่าเดือนละ 3 ล้านคน ถ้าหากปลายปีนี้มาได้จริง 10% (3 แสนคนต่อเดือน) 3 เดือนก็ได้ประมาณ 1 ล้านคน ถ้า 1 ล้านคนค่าใช้ต่อหัวเฉลี่ย 5 หมื่นบาทต่อคนต่อทริปก็ได้ 5 หมื่นล้านบาท ก็จะทำให้จีดีโตขึ้นได้ 0.3% จากภาคบริการ จากที่คาดการณ์จีดีพีปีนี้จะขยายได้ 0.5-2% ก็บวกเข้าไปอีก 0.3% ในปลายปีนี้ ผลพวงต่อเนื่องจากการเปิดประเทศจะทำให้ธุรกิจร้านรวงต่าง ๆ ร้านอาหารจะกลับมาฟื้นตัน เพิ่มการจ้างงาน “สยามเมืองยิ้ม”จะกลับมาใหม่อีกครั้ง
-เปิดประเทศนอกจากท่องเที่ยวแล้วจะได้อะไรอีก
“ไม่ได้เฉพาะท่องเที่ยว จะได้ความเชื่อมั่นกลับมา ซึ่งเมื่อวันก่อน ประธานหอการค้าญี่ปุ่นได้นำกรรมการชุดใหม่มาพบ ถามเรื่อง วัคซีนเป็นอย่างไรบ้าง เราก็บอกว่าเราเตรียมจะเปิดประเทศแล้ว เขาบอกนายกรัฐมนตรีเป็นฮีโร่เลยนะ ถ้าอย่างนี้แสดงว่าท่านกล้าที่จะ commit (มีความมุ่งมั่น)ในฐานะที่เป็นผู้นำรัฐบาล ผมยังเชิญชวนเขานำพวกญี่ปุ่นไปเปิดงานที่ภูเก็ตด้วยกัน ขณะเดียวกันให้เขาเตรียมตัวประชาสัมพันธ์เอานักลงทุน เอานักธุรกิจญี่ปุ่นมาเที่ยวที่เมืองไทย และมาดูโอกาสในการลงทุนในไทย โดยเฉพาะอีอีซีต้องไปต่อ ซึ่งเขาสนับสนุน คาดว่าการลงทุนจะกลับมาคึกคักหากเราสามารถเปิดประเทศได้และไม่มีปัญหา” นายสนั่นกล่าวตอนท้าย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
กรุงเทพโพลล์ เผยคนไทยร้อยละ 59.9 กังวลเปิดประเทศใน120 วัน
โพลล์ชี้ ปชช. 61% เชื่อเปิดประเทศใน 120 วัน ช่วยเคลื่อนศก.-การลงทุน
หอการค้าฯมั่นใจเปิดประเทศ แต่กังวลวัคซีนมีไม่พอ
“หมอบุญ” จี้ 3 ปมร้อนรัฐบาลนายกตู่ “ไวรัสกลายพันธุ์-วัคซีน-เปิดประเทศ”
คอนโดฯหรู กลางกรุง ตื่น! รับ ‘เปิดประเทศ’