นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า
ในส่วนของโครงการ"เราเที่ยวด้วยกัน" เฟส3 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ยังไม่อนุมัติการเพิ่มสิทธิห้องพักให้อีก 2 ล้านห้อง และขยายเวลาดำเนินโครงการจนถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนั้น
จริงๆการถูกตีกลับเป็นเพราะขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการของกระทรวงการคลัง ซึ่งจะโยกงบประมาณดำเนินโครงการนี้ทั้งหมด มาไว้ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เพื่อให้ง่ายต่อการดำเนินการ
เนื่องจากที่ผ่านมางบประมาณอยู่ที่คลัง เมื่อต้องดำเนินการอะไรก็ต้องประสาน ททท. ธนาคารกรุงไทยซึ่งมีความล่าช้าเกิดขึ้น จึงโยกงบออกมาไว้ที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯและทางกระทรวงฯจะมอบให้ททท.ดูแลต่อ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้เร็วมากขึ้น
ส่วนเรื่องปัญหาการทุจริตในโครงการเราเดียวด้วยกัน ก็มีการพูดกัน ครม.อยากให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พิจารณารายละเอียด รวมถึงเงื่อนไขการปฏิบัติเพิ่มเติมให้มีความรัดกุมมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตในโครงการ
“การปรับเปลี่ยนเงื่อนไข"เราเที่ยวด้วยกัน" ใหม่ ขณะนี้ได้มอบหมายให้ททท. เป็นหลักในการหารือร่วมกับธนาคารกรุงไทย ในการเพิ่มข้อปฏิบัติให้รัดกุมมากขึ้น โดยจะมีการยืนยันตัวตนผ่านแอพพลิเคชั่น เพื่อให้แน่ชัดว่าผู้ที่ใช้สิทธิเราเที่ยวด้วยกัน เป็นเจ้าของสิทธิจริงๆ
ส่วนผู้ประกอบการโรงแรม จะต้องมีเงื่อนไขอย่างไร ก็ต้องหารือร่วมกันอีกครั้ง โดยเบื้องต้นที่ประชุมครม. อยากให้เรากลับมายืนยันตัวตนผู้ได้สิทธิเราเที่ยวด้วยกันทั้ง 6 ล้านคนแรกก่อนว่าเป็นเจ้าของสิทธิจริงๆ หรือไม่ มีการรับนักท่องเที่ยวเข้ามาถูกต้องอย่างไร
ตรงนี้ก็ต้องกลับมาดูว่าระบบจะทำได้ทันหรือไม่ แต่มองแล้วอย่างไรก็คงไม่ทัน จึงจะหาทางเพิ่มเติมในขั้นตอนอื่นๆ แทน แต่สิทธิ์การจองใหม่ก็จะต้องมีการยืนยันตัวตนแน่นอน เพื่อป้องกันทุจริตซ้ำรอยเดิมอีก
หลังจากนั้นต้องนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะกลั่นกรองเงินกู้ สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ก่อน ซึ่งหากผ่านการพิจารณาจะนำรายละเอียดโครงการเสนอ เข้าครม. เพื่อพิจารณาอีกครั้ง
โดยได้มอบหมายให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดำเนินการในขั้นตอนต่อไป ซึ่งคาดว่าเราเที่ยวด้วยกัน จะสามารถออกมาได้ทันในเดือนมีนาคมนี้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง