อนึ่ง ปลาน้ำจืดอย่างตะเพียนนี้ต้องระวังกลิ่นสาบโคลน ซึ่งบ่งถึงสภาพแหล่งน้ำที่จับมาไม่ได้สมดุลชีวภาพประการหนึ่ง สามารถจัดการได้โดยระวังตรงพุงมัน เวลาล้างควักต้องขัดถูผนังท้องเสียให้สะอาดด้วยใยหยาบอย่างว่าเราขัดสีฟัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เมืองเหนืออย่างพะเยา เอาตะเพียนขึ้นจากกว๊านเลาะแล่เอาแต่เนื้อสับสับสับเข้าคั้นด้วยน้ำมะนาวทำลาบเมืองใส่มะแขว่นมะข่วงพริกแห้งพริกลาบ โรยเครื่องทอดหอมเจียว กระเทียมเจียว เจือมะแหลบ และเกล็ดปลานั้นซึ่งทอดมาเสียให้กรอบ กินคู่ข้าวนึ่งไอน้ำ เรียกลาบ ‘หมี่’ ด้วยว่ามันกรอบจากเครื่องทอด ไปพะเยาไม่สะดวก?
ในเมืองกรุงยังมีร้าน “ขมิ้น” ทำขายอยู่ละแวกสนามบินน้ำ
อีกวิธีทำต้มเค็มเอาอ้อยท่อนๆรองขวางก้นหม้อขัดกันไว้สักสองสามชั้น หาไม่มีเอาเปลือกเอาแกนสับปะรดแทนได้ ผัดเครื่องรากผักชีกระเทียมพริกไทยในน้ำปลาละลายหวานน้ำตาลปึก ราดรดลงไปในกองปลาแล้วเคี่ยวไฟรุมๆ ย่ำรุ่งก็ได้กินเหมือนที่ระนอง
ปลาตะเพียนทำต้มเค็มแล้วก้างนิ่มนี้ ตีนสะพานคลองตันยังมีวิเสทโภชนาเจ้าหนึ่ง เขาประดิษฐ์หีบนึ่งอลูมิเนียมดิบดี เอาตะเพียนเขื่องทั้งยวงไข่นึ่งอบไอน้ำเอาไว้ รอท่า ชื่อว่าร้าน “โอชาโภชนา” กินกับบรั่นดีโซดา เข้าท่านัก
นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 40 หน้า 23 ฉบับที่ 3,591 วันที่ 12 - 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2563