พล.ต.ไชยสิทธิ์ ตันตยกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์และการป้องกันประเทศ และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ประมวลและนำเสนอข้อมูลวิเคราะห์เกี่ยวกับความร่วมมือจีน – อาเซียนจะดำเนินไปอย่างไรในปี ๒๐๒๑ (พ.ศ.๒๕๖๔) ตอนที่ ๑ ซึ่งมีประเด็นที่น่าสนใจดังนี้
๑. ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ ๓๐ ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างจีนและอาเซียน ซึ่งเป็นปีแห่งความร่วมมือและการพัฒนาที่ยั่งยืนจีน - อาเซียน ในขณะที่ยังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิดอย่างซ้ำซากและสถานการณ์การพัฒนาเศรษฐกิจโลกที่ซับซ้อนและรุนแรง โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ได้แสดงสุนทรพจน์ในการประชุมเปิดงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ ๑๗ เมื่อวันที่ ๒๗ พ.ย.๖๓ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงทิศทางการกระชับความร่วมมือจีน – อาเซียนและส่งเสริมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคว่า
๑.๑ การรวมใจและร่วมมือกันจัดการกับการแพร่ระบาด โดย “จีนยินดีที่จะเสริมสร้างความเป็นปึกแผ่นและความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศรวมถึงประเทศในอาเซียนและสนับสนุนองค์การอนามัยโลกให้มีบทบาทนำในการร่วมกันสร้างชุมชนด้านสุขภาพของมนุษย์”
๑.๒ ความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่ง “ภายใต้สถานการณ์ใหม่จีนถือว่าอาเซียนเป็นทิศทางลำดับความสำคัญของการทูตเพื่อนบ้านและการก่อสร้างร่วมกันที่มีคุณภาพสูงของพื้นที่สำคัญ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” (ข้อริเริ่ม “สายแถบและเส้นทาง” “Belt and Road Initiative : BRI) สนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียนสนับสนุนตำแหน่งศูนย์กลางของอาเซียนในความร่วมมือเอเชียตะวันออกและ สนับสนุนอาเซียนในการสร้างโครงสร้างภูมิภาคที่เปิดกว้างและครอบคลุมมีบทบาทมากขึ้น” และ “จีนจะขยายการเปิดสู่โลกภายนอกอย่างไม่หยุดยั้งเพิ่มผลการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจภายในและระหว่างประเทศและขับเคลื่อนการฟื้นตัวร่วมกันของโลกด้วยการฟื้นตัวของตนเองและทุกประเทศในโลกรวมทั้งอาเซียนจะได้รับประโยชน์”
๑.๓ ร่วมสร้าง "หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” และส่งเสริมความร่วมมือตามความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP (Regional Comprehensive Economic Partnership )
๑.๔ ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดย “จีนยินดีที่จะทำงานร่วมกับอาเซียนเพื่อสร้างศูนย์ข้อมูลจีน – อาเซียน เพื่อส่งเสริมการเชื่อมต่อโครงข่ายดิจิทัลและสร้างเส้นทางสายไหมดิจิทัล”
๒. ในช่วง ๓๐ ปีที่ผ่านมาความสัมพันธ์จีน – อาเซียนได้ดำเนินไปอย่างก้าวหน้า กล่าวคือ
๒.๑ ปี ๑๙๙๑ (พ.ศ.๒๕๓๔) นายเฉียน ฉีเชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีนได้เข้าร่วมพิธีเปิดการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนครั้งที่ ๒๔ และกระบวนการเจรจาจีน - อาเซียนได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
๒.๒ ปี ๒๐๐๒ (พ.ศ.๒๕๔๕) ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามใน "ข้อตกลงกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมจีน - อาเซียน" ซึ่งกำหนดเป้าหมายในการจัดตั้งเขตการค้าเสรีจีน - อาเซียนในปี ๒๐๑๐ (พ.ศ.๒๕๕๓)
๒.๓ ปี ๒๐๐๓ (พ.ศ.๒๕๔๖) จีนกลายเป็นคู่เจรจากลุ่มแรกที่เข้าร่วมสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับอาเซียนอย่างสร้างสรรค์ โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในปฏิญญาร่วมว่าด้วยหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรือง
๒.๔ ปี ๒๐๐๔ (พ.ศ.๒๕๔๗) "โครงการเก็บเกี่ยวล่วงหน้าก่อนกำหนด" ( "Early Harvest Program") ของเขตการค้าเสรีจีน – อาเซียนถูกนำมาใช้ โดยจีนและอาเซียนได้ลงนามใน "ข้อตกลงการค้าสินค้า" และการก่อสร้างเขตการค้าเสรีก็เข้าสู่ขั้นตอนการปฏิบัติที่สำคัญ รวมทั้งการเริ่มต้นงานแสดงสินค้าจีน - อาเซียน
๒.๕ ปี ๒๐๐๖ (พ.ศ.๒๕๔๙) การประชุมสุดยอดจีน - อาเซียน ในวาระความสัมพันธ์ครบรอบ ๑๕ ปีจะจัดขึ้นในระหว่างงาน China-ASEAN Expo
๒.๖ ปี ๒๐๐๗ (พ.ศ.๒๕๕๐) ทั้งสองฝ่ายลงนามใน "ข้อตกลงการค้าบริการ" ) ของเขตการค้าเสรีจีน - อาเซียน
๒.๗ ปี ๒๐๐๙ (พ.ศ.๒๕๕๒) ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในข้อตกลงการลงทุนเขตการค้าเสรีจีน - อาเซียน
๒.๘ ปี ๒๐๑๐ (พ.ศ.๒๕๕๓) เขตการค้าเสรีจีน - อาเซียนเสร็จสมบูรณ์
๒.๙ ปี ๒๐๑๓ (พ.ศ.๒๕๕๖) ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเสนอที่จะทำงานร่วมกันเพื่อสร้างประชาคมจีน - อาเซียนที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นโดยมีอนาคตร่วมกัน
๒.๑๐ ปี ๒๐๑๘ (พ.ศ.๒๕๖๑) จีนและอาเซียนร่วมกันออก “วิสัยทัศน์ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์จีน - อาเซียนปี ๒๐๓๐” (China-ASEAN Strategic Partnership Vision 2030”)
๒.๑๑ ปี ๒๐๑๙ (พ.ศ.๒๕๖๒) “พิธีสาร” ว่าด้วยการยกระดับเขตการค้าเสรีจีน - อาเซียนมีผลบังคับใช้อย่างสมบูรณ์
๒.๑๒ ปี ๒๐๒๐ (พ.ศ.๒๕๖๓) อาเซียนแทนที่สหภาพยุโรปในฐานะคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของจีน และทั้งสองฝ่ายบรรลุความก้าวหน้าครั้งประวัติศาสตร์สำหรับคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของกันและกันเป็นครั้งแรก โดยร่วมกันส่งเสริมการลงนามในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีประชากรมากที่สุดในโลก รวมทั้งเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดและเป็นเขตการค้าเสรีที่มีศักยภาพในการพัฒนา
บทสรุป ทิศทางความร่วมมือระหว่างจีน – อาเซียน ได้เปิดโอกาสใหม่ในการปรับปรุงรวมทั้งยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกันและการขยายความร่วมมือเชิงปฏิบัติที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้น ดังที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ได้กล่าวในพิธีเปิดงาน China-ASEAN Expo ครั้งที่ ๑๗ เมื่อวันที่ ๒๗ พ.ย.๖๓ ว่า“ ความสัมพันธ์จีน - อาเซียนกลายเป็นรูปแบบความร่วมมือระดับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่ประสบความสำเร็จรวมทั้งมีพลวัตสูงสุดและเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในการส่งเสริมการสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วม เพื่อมนุษยชาติ”