รายงานข่าวระบุว่า น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" ระบุข้อความว่า
ด่วน !! เรือนจำเชียงใหม่ ตรวจเชิงรุกพบโควิดมากถึง 3929 ราย จากจำนวนทั้งสิ้น 6469 ราย คิดเป็น 60.74%
จากกรณีตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา มีการตรวจที่เรือนจำจังหวัดเชียงใหม่ ในส่วนแดนแรกรับ ซึ่งเป็นการแยกกักโรค 14 วัน ก่อนที่จะส่งผู้ต้องขังเข้าไปในแดนชั้นใน เมื่อทำการตรวจเชิงรุก 118 ราย พบผู้ติดเชื้อจำนวน 37 ราย โดยทั้งหมดได้รับการกักตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามของเรือนจำ เนื่องจากเป็นผู้มีอาการเล็กน้อยหรือติดเชื้อไม่แสดงอาการ
อย่างไรก็ตามเรือนจำทุกแห่ง และทุกประเทศ จะประสบปัญหาเดียวกันคือ การเว้นระยะห่างทางสังคมทำได้ยาก
โดยเฉพาะเรือนจำของประเทศไทย ซึ่งมีผู้ต้องขังมากกว่าศักยภาพที่เรือนจำจะรับได้นับ 100,000 ราย เป็นที่กล่าวขานถึงขนาดว่า ถ้าลุกขึ้นจากที่นอนแล้ว กลับมาจะไม่มีที่ว่างให้นอนอีก
ขณะนี้ มีรายงานข่าวล่าสุด จากสื่อท้องถิ่นของจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า
หลังจากที่ทำการตรวจเชิงรุกต่อเนื่องกันหลายวัน ซึ่งเป็นมาตรการที่ดีและถูกต้อง ในการตรวจผู้ต้องขังทุกรายจำนวน 6469 ราย ตรวจพบเป็นบวกถึง 3929 ราย คิดเป็นร้อยละ 60.74 และในขณะเดียวกันทางกรมราชทัณฑ์ ก็ได้ดำเนินการมาตรการเชิงรุกร่วมกับทางกระทรวงสาธารณสุข ในการเข้าไปตรวจอีกแปดเรือนจำ พบผู้ติดเชื้อรวม 9783 ราย ได้แก่
เรือนจำเชียงใหม่
เรือนจำพิเศษกรุงเทพ
ทัณฑสถานหญิงกลาง
เรือนจำคลองเปรม
เรือนจำพิเศษธนบุรี
เรือนจำนนทบุรี
ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง
เรือนจำจังหวัดฉะเชิงเทรา
เรือนจำจัดเป็นพื้นที่เสี่ยงสูงมาก ซึ่งมีคนกว่า 300,000 คน ที่จำเป็นจะต้องตรวจเชิงรุกให้ครบทุกคน และดำเนินการเข้าควบคุมตามหลักวิชาการ ไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด เจ็บป่วย และเสียชีวิต
เรื่องนี้บางส่วน จะมีข้อสงสัยว่า ทำไมเรือนจำจึงไม่เกิดการติดเชื้อและแพร่ระบาดในระลอกที่หนึ่งและสอง หลักใหญ่ใจความ มาจากการระบาดระลอกที่หนึ่งและสองเป็นไวรัสสายพันธุ์เดิม ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดไม่มากนัก
ส่วนการแพร่ระบาดในปัจจุบันระลอกที่สาม เป็นไวรัสกลายพันธุ์สายพันธุ์อังกฤษ ซึ่งมีความสามารถในการแพร่ระบาดได้มากขึ้นถึง 70% มาตรการต่างๆที่ทางเรือนจำเคยใช้ได้ผลในช่วงที่ผ่านมา จึงไม่สามารถจะสกัดกั้นการระบาดครั้งนี้ได้
เป็นอุทาหรณ์สำหรับหน่วยงานของรัฐ ที่จะออกมาตรการต่างๆในการควบคุมโรค พึงตระหนักว่า ไวรัสสายพันธุ์อังกฤษแพร่ระบาดได้รุนแรงรวดเร็ว การผ่อนคลายมาตรการต่างๆจึงใช้หลักการเดิมเหมือนสมัยระบาดระลอกหนึ่งและสองไม่ได้ ต้องระวังให้มาก ประมาทไม่ได้เลยครับ
Reference
https://www.komchadluek.net/news/crime/467050?adz=
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :