กรมศุลสั่งตรวจเข้ม สินค้าหนีภาษี

นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร ในฐานะโฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า อธิบดีกรมศุลกากร ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดพร้อมหน่วยปฏิบัติการวางแผน ตรวจค้นจับกุมสินค้าลักลอบหนีภาษีเข้ามาในไทย อย่างเข้มงวดเป็นพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าเกษตร น้ำมัน ยาเสพติด สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และสินค้าละเมิดอนุสัญญาไซเตส โดยให้สืบสวนหาข่าวและออกลาดตระเวนด้วยรถยนต์ ตรวจค้นรถบรรทุก โกดัง บ้านเรือน แหล่งจำหน่าย สถานที่เก็บรักษาที่เชื่อได้ว่ามีของผิดกฎหมายเก็บซุกซ่อนอย่างเคร่งครัด 

นอกจากนี้มีแผนการป้องกันและปราบปรามสินค้า ในช่วงเวลาซึ่งมีความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการลักลอบ โดยบูรณการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่น ทั้งในและต่างประเทศ อาทิ ทหาร กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ สถานทูตต่างๆ ตำรวจสากล เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวระหว่างกัน

สำหรับในเดือนธ.ค.2562 กรมศุลกากรตรวจพบการกระทำผิดตามกฎหมายศุลกากรหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 1,633 คดี คิดเป็นมูลค่า 102 ล้านบาท จำนวนคดีลักลอบ 30.2% หลีกเลี่ยง 69.8% โดยมีสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ นาฬิกาข้อมือ บุหรี่ กระเป๋าแบรนด์เนม ส่วนสินค้าที่มีมูลค่าการลักลอบส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เมทแอมเฟตามีน โดยผลงานที่สำคัญ เช่น โคคาอีน 42 ก้อน น้ำหนัก 575 กรัม มูลค่า 1.27 ล้านบาท ข้าวสารเหนียว 660 กระสอบ 1.3 ล้านบาท หอมแขกพม่า 6 ตัน มะพร้าว ลักลอบเข้าประเทศกว่า 20 ตัน ตรวจค้นโกดังสินค้าพบสินค้าละเมิดเครื่องหมายการค้า มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

นอกจากนี้กรมศุลกากรยังได้เริ่มทดลองนำระบบการตอบคำถามและให้บริการข้อมูลด้านศุลกากรโดยอัตโนมัติ หรือ คัสตอม แชทบอท มาให้บริการตอบคำถามเรื่องภาษี อากรนำเข้าแล้ว และกรมศุลกากรจะมีการเปิดตัวระบบ คัสตอม แชทบอท และนายอากร ในวันที่ 30 ม.ค.2563 ที่กรมศุลกากร ส่วนการติดตั้งเครื่องเอ็กซเรย์คร่อมสายพานลำเลียงกระเป๋าเดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิ 23 จุด คาดว่าจะเสร็จและเริ่มใช้ได้ในเดือนมี.ค.นี้ 

ทั้งนี้ การนำระบบ คัสตอม แชทบอท มาใช้จะช่วยการตอบคำถามโดยอัตโนมัติจะสามารถเข้าถึงผู้รับบริการได้อย่างทั่วถึง ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่ต้องเดินทางมาติดต่อในวันเวลาราชการ สามารถลดเวลาและค่าใช้จ่ายของผู้รับบริการ ซึ่งเป็นการพัฒนากระบวนงานที่ทันสมัย มีประชาชนเป็นศูนย์กลาง สอดคล้องกับการพัฒนาองค์กรสู่ คัสตอม 4.0 อย่างแท้จริง

“ระบบแชทบอทที่พัฒนาขึ้นจะเพิ่มประสิทธิภาพในการประชาสัมพันธ์และการให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านพิธีการศุลกากร พิกัดอัตราศุลกากร กฎหมายศุลกากร กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า สิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรในด้านต่าง ๆ เช่น คลังสินค้าทัณฑ์บน เขตปลอดอากร เขตประกอบการเสรี การขอคืนอากร”นายชัยยุทธ กล่าว