วันที่ 28 ต.ค. ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง หลังจากกระทรวงการคลังเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนบน www.คนละครึ่ง.com ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าเมื่อวานนี้ 27 ต.ค. เวลาประมาณ 20.00 น. ข้อมูลจาก ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง ได้แจ้งว่าสิทธิคงเหลือเต็มแล้ว ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง ได้ให้สิทธิประชาชนลงทะเบียน ทั้งสิ้น 10 ล้านคน สิทธิลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง ใช้เวลาเพียง 12 วันเท่านั้น
สำหรับ ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เป็นโครงการที่รัฐบาลให้ สิทธิรัฐช่วยจ่าย 50% ไม่เกินวันละ 150 บาท หรือ สูงสุด ไม่เกิน 3,000 บาท ตลอดระยะเวลาโครงการ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ปิดจ๊อบลงทะเบียน "คนละครึ่ง" 10 ล้านสิทธิเต็มแล้ว
ร่วมโครงการคนละครึ่งร้านค้า ได้รับโอนเงินจากรัฐเมื่อไหร่หาคำตอบจากที่นี่
ลงทะเบียนโครงการคนละครึ่ง เหลือสิทธิลงทะเบียน 5 แสนสิทธิแล้ว
www.คนละครึ่ง.com จังหวัดไหนใช้จ่ายมากที่สุด
www.คนละครึ่ง.com ลืมรหัส “แอปเป๋าตัง” ลงทะเบียนเติมเงินG-Wallet ทำอย่างไรเช็กที่นี่
ก่อนหน้านี้ นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการคนละครึ่งมีประชาชนลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 9.4 ล้านคน และมีร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการกว่า 3.8 แสนร้านค้า ซึ่ง ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2563 มียอดการใช้จ่ายสะสม 704.5 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่าย 362.5 ล้านบาท และภาครัฐร่วมจ่ายอีก 342 ล้านบาท ยอดใช้จ่ายเฉลี่ย 232 บาทต่อครั้ง โดยใช้จ่ายครบทุกจังหวัด และจังหวัดที่มีการใช้จ่ายมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สงขลา และนครศรีธรรมราช
วัตถุประสงค์
เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจระดับฐานราก สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยโดยเฉพาะกลุ่มหาบเร่ แผงลอย เพื่อให้มีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น
วิธีดำเนินโครงการ
ประชาชนและร้านค้าลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ผ่าน www.คนละครึ่ง.com ตามวันและเวลาที่กำหนด
เมื่อลงทะเบียนผ่านแล้ว ให้ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน ดังนี้
ประชาชน ติดตั้งแอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง” เพื่อใช้จ่าย
ร้านค้า ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า
ประชาชนจะต้องใช้จ่ายเงิน ภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิหรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ
ภาครัฐร่วมจ่ายค่าอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไปผ่านฝ่ายของผู้ซื้อร้อยละ 50 ทั้งนี้ ไม่เกิน 150 บาทต่อคนต่อวัน หรือไม่เกิน 3,000 บาท ต่อคนตลอดระยะเวลาโครงการ
ระยะเวลาดำเนินการ
ระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่เดือนตุลาคม – ธันวาคม 2563 (3 เดือน)
กำหนดการลงทะเบียน
ร้านค้า เริ่ม 1 ตุลาคม 2563 เวลา 6.00 – 23.00 น.
ประชาชนน เริ่ม 16 ตุลาคม 2563 เวลา 6.00 – 23.00 น.
ช่วงระยะเวลใช้จ่าย 23 ตุลาคม – 31 ธันวาคม 2563 เวลา 6.00 – 23.00 น.
คุณสมบัติผู้ที่ลงทะเบียน
อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
สัญชาติไทย
ไม่เป็นผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
***ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากมีการเพิ่มวงเงินใช้จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแทน อ่านเพิ่มเติมได้ที่ โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้มีบัตรฯ)
ร้านค้า
การลงทะเบียน
ลงทะเบียนวันที่ 1 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 น. – 23.00 น. ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com หรือแจ้งผ่านสาขาธนาคารกรุงไทย
ดาวน์โหลดและติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” เพื่อรับชำระเงินจากการขายสินค้า
เงื่อนไข
ต้องเป็นร้านค้าขนาดเล็ก ร้านอาหาร/เครื่องดื่ม ร้านค้าทั่วไป แผงลอย โชห่วย ที่ไม่ใช่นิติบุคคล และไม่ใช่ร้านค้าสะดวกซื้อที่เป็นธุรกิจแฟรนไชส์ เช่น เซเว่น-อีเลฟเว่น
ส่วนร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เป็นนิติบุคคล เช่น ร้านสะดวกซื้อ รัฐบาลจะไม่เปิดให้เข้าร่วมโครงการ
ร้านค้าเดิมที่เคยร่วมโครงการรัฐทั้งชิมช้อปใช้และเราเที่ยวด้วยกันไม่ต้องลงทะเบียนใหม่
ประชาชน
การลงทะเบียน
ลงทะเบียนวันที่ 16 ตุลาคม 2563 เวลา 06.00 – 23.00 น. จนกว่าจะครบ 10 ล้านสิทธิ์ ผ่านเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com
หลังลงทะเบียนภายใน 2 วันจะได้รับ SMS แจ้งว่าผ่านการพิจารณาหรือไม่
เมื่อได้รับ SMS แจ้งว่าผ่านการพิจารณาแล้วให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง”
ผู้ได้รับสิทธิต้องยืนยันตัวตนผ่าน g-Wallet แอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” อีกขั้นตอนหนึ่งด้วย จึงจะสามารถใช้จ่ายกับร้านค้าที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน “ถุงเงิน” ที่เข้าร่วมโครงการเพื่อรับสิทธิได้
เงื่อนไขการใช้จ่าย
จะมีช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563 ในเวลา 06.00 น. – 23.00 น.
ผู้ได้รับสิทธิจะต้องเริ่มใช้จ่ายภายใน 14 วัน นับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ตนได้รับ SMS แจ้งรับสิทธิหรือวันที่เปิดให้เริ่มใช้จ่ายตามโครงการ มิเช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิและไม่สามารถลงทะเบียนได้อีก โดยสิทธิที่ถูกตัดจะนำไปเปิดให้ลงทะเบียนใหม่
ข้อกำหนดเพิ่มเติม
โครงการนี้รัฐบาลจะช่วยจ่ายค่าซื้อสินค้าให้ 50% ของมูลค่าสินค้า แต่ไม่เกินวันละ 150 บาทต่อวันต่อคน และตลอดทั้งโครงการให้สูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
ตัวอย่าง หากซื้อสินค้าจำนวน 300 บาท เราจ่ายเอง 150 บาท รัฐบาลจ่ายให้ 150 บาท หรือกรณีที่ซื้อสินค้า 350 บาท เราต้องจ่ายเอง 200 บาท รัฐบาลจ่ายให้ 150 บาทต่อวันเท่านั้น
การซื้อสินค้าจะต้องจ่ายเงินผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” เท่านั้น ดังนั้น ก่อนซื้อสินค้า ต้องเติมเงินเข้าแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ให้เรียบร้อยก่อน จากนั้นนำไปสแกนกับแอปพลิเคชันถุงเงิน ของร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ
“วงเงินของภาครัฐ” ต้องใช้ให้หมดวันต่อวันไม่สามารถเก็บไว้ใช้ในวันต่อไปได้ ส่วนเงินที่ผู้เข้าร่วมโครงการเติมเองสามารถเก็บไว้ได้หรือจะโอนเข้าบัญชีธนาคารของตนเองก็ทำได้
หลังจากซื้อสินค้า รัฐบาลจะโอนเงินให้กับร้านค้าจำนวน 50% ของสินค้าที่ซื้อ สูงสุด 150 บาท ให้กับร้านค้าในวันถัดไป
ครอบคลุมสินค้าประเภทอาหาร เครื่องดื่ม และสินค้าทั่วไป (ไม่รวมล็อตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ และการบริการ)
โครงการนี้จะไม่ใช่การโอนเงินสดให้ไปกดใช้เอง เพื่อป้องกันการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์