โพลเผยพฤติกรรม"การดูแลสุขภาพของคนไทย" ก่อน และหลังโควิดระบาด

09 ส.ค. 2563 | 02:29 น.
อัปเดตล่าสุด :09 ส.ค. 2563 | 10:58 น.

โพล เผยเทียบพฤติกรรม"การดูแลสุขภาพของคนไทย" ก่อนและหลังมีโควิด-19 ระบาด ชี้พฤติกรรมคนไทย เริ่มหันมาดูแลสุขภาพเอาใจใส่คนรอบข้างมากขึ้น  ส่วนพฤติกรรมที่ปฏิบัติลดลงมากสุดคือการไปสถานบันเทิง สถานที่แออัด  ตามด้วยการใช้บริการรถสาธารณะ 

9 สิงหาคม 2563 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,123 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 3-7 สิงหาคม 2563 ในหัวข้อ “การดูแลสุขภาพของประชาชนหลังมีโควิด-19 ระบาด” เพื่อสะท้อนความคิดเห็นกรณีสถานการณ์โควิด-19 ณ วันนี้ ยังคงเป็นเรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญและคอยติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสอย่างรวดเร็ว สร้างความวิตกกังวลให้กับประชาชนอย่างมาก ทำให้หลายคนตระหนักและหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมใหม่ๆ เพื่อป้องกันตัวเองให้ห่างไกลจากโรคนี้ สรุปผลได้ ดังนี้

 

l การระมัดระวังดูแลสุขภาพของประชาชนเมื่อเปรียบเทียบ “ก่อน และ หลังมีโควิด-19 ระบาด” เป็นอย่างไร?

 


                    อันดับ                      ประเด็น    เปรียบเทียบ “ก่อน และ หลังมีโควิด-19 ระบาด”
                                                         

                                                                       มากขึ้น    เท่าเดิม    ลดลง

1    การเอาใจใส่คนรอบข้าง เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน    80.59%    18.52%    0.89%

2    การซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 เช่น แมส เจลล้างมือ ฯลฯ    75.78%    18.25%    5.97%

3    การดูแลรักษาความสะอาดเสื้อผ้า ของใช้ประจำตัว    69.01%    30.45%    0.54%

4    การเลือกอาหารการกิน    67.85%    30.28%    1.87%

5    การค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ    61.18%    32.59%    6.23%

6    การทำความสะอาดบ้าน ที่อยู่อาศัย    59.39%    39.45%    1.16%

7    การตรวจเช็คสุขภาพตนเอง เช่น วัดไข้ วัดความดัน ฯลฯ    54.14%    36.33%    9.53%

8    การนอนหลับพักผ่อน    49.07%    48.09%    2.84%

9    การออกกำลังกาย    40.34%    45.59%    14.07%

10    การทำงานอดิเรก เช่น เล่มเกมส์ อ่านหนังสือ ปลูกต้นไม้    34.64%    56.01%    9.35%

11    การซื้อประกันชีวิต/ประกันสุขภาพ    22.89%    55.92%    21.19%

12    การใช้บริการรถสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า รถตู้ ฯลฯ    13.18%    21.64%    65.18%

13    การเข้าร่วมกิจกรรมสถานบันเทิง สถานที่แออัด    12.47%    10.95%    76.58%

โพลเผยพฤติกรรม\"การดูแลสุขภาพของคนไทย\" ก่อน และหลังโควิดระบาด

 

 

ด้านนางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลการสำรวจดังกล่าว พบว่า พฤติกรรมด้านสุขภาพที่ประชาชนปฏิบัติมากขึ้น ได้แก่ การเอาใจใส่คนรอบข้าง เช่น พ่อแม่ พี่น้อง ร้อยละ 80.59 รองลงมาคือ ซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด -19 ร้อยละ 75.78 ส่วนพฤติกรรมที่ปฏิบัติเท่าเดิม คือ  การทำงานอดิเรกต่าง ๆ  ร้อยละ 56.01 และพฤติกรรมที่ปฏิบัติลดลงมากที่สุด  คือ การไปสถานบันเทิง สถานที่แออัด ร้อยละ 76.58 ตามด้วยการใช้บริการรถสาธารณะ เช่น รถเมล์ รถไฟฟ้า รถตู้ ฯลฯ ร้อยละ 65.18%


จากผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นว่าหลังจากมีการระบาดของโควิด-19 คนไทยมีพฤติกรรมดูแลสุขภาพเปลี่ยนแปลงไป โดยพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในทิศทาง “มากขึ้น” ล้วนเป็นพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับปัจจัย 4 ไม่ว่าจะเป็นอาหาร ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค โดยเฉพาะปัจจัยด้านยารักษาโรคที่พบว่าคนไทยมีการตระเตรียมซื้ออุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 เพิ่มขึ้น และนอกจากจะซื้อเพื่อตนเองแล้ว ยังดูแลเผื่อแผ่ไปยังคนรอบข้างมากขึ้นอีกด้วย พฤติกรรมป้องกันโควิด-19 ด้วยตนเองอย่างเคร่งครัดของคนไทยเช่นนี้ จึงเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ประเทศไทยไม่พบผู้ติดเชื้อในประเทศมากว่า 2 เดือน ส่งผลให้ไทยเป็นประเทศที่ฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากสถานการณ์โควิด-19 อีกด้วย

 

ขณะที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรีสุดา วงศ์วิเศษกุล คณบดี คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมไทยค่อนข้างหวั่นไหวกับโอกาสการระบาดระลอกสองที่นักวิชาการด้านสุขภาพและนักระบาดวิทยาต่างออกมาเตือนคนไทยให้กำกับพฤติกรรมตนตามวิถีใหม่ (New Normal) ให้เหนียวแน่น ผลโพลของ สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สะท้อนให้เห็นอิทธิพลของการระบาดนี้ต่อพฤติกรรมการดูแลสุขภาพอย่างชัดเจน กล่าวคือพฤติกรรมเชิงป้องกันตนเองเพิ่มสูงขึ้น และพฤติกรรมที่สุ่มเสี่ยงต่อการสัมผัสเชื้อโรคลดต่ำลง รวมทั้งการค้นหาข้อมูลข่าวสารด้านสุขภาพ การตรวจสุขภาพ อันเป็นพฤติกรรมที่บุคลากรสุขภาพคาดหวังให้ประชาชนประพฤติปฏิบัตินั้นเพิ่มสูงขึ้นด้วย

 

“อาจกล่าวได้ว่าวิกฤติการณ์โควิด-19 เป็นปัจจัยกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้านสุขภาพ (Health Protection) ที่มีประสิทธิภาพยิ่ง ประเด็นที่น่าสนใจคือ การเอาใจใส่คนรอบข้าง เช่น พ่อแม่ พี่น้อง เพื่อน เพิ่มสูงขึ้นเป็นอันดับแรก จึงขอเสนอ “การ์ดอย่าตกเพื่อปกป้องตัวคุณ คนที่รักและครอบครัว” เป็นสโลแกนป้องกันการระบาดรอบใหม่ไว้ ณ ที่นี้” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศรีสุดา กล่าว