ต้าน “พรก.ฉุกเฉิน” ก้าวไกล ปลุกม็อบ ออกมาแสดงพลัง

26 มิ.ย. 2563 | 06:47 น.

พรรคก้าวไกล ปลุกม็อบออกมาต้าน “พรก.ฉุกเฉิน” ชี้สถานการณ์โควิดดีขึ้นแล้ว ต่ออายุเป็นการริดรอนเสรีภาพประชาชน

วันที่ 26 มิถุนายน 2563 นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล แถลงที่รัฐสภา คัดค้านการต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ไปถึงสิ้นเดือนกรกฎาคมนี้ ตามที่ ศบค.ชุดเล็กจะเสนอต่อศบค.ชุดใหญ่วันจันทร์ที่ 29 มิ.ย.นี้ ขอคัดค้านการขยายการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หวังว่าต้นสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะมีเหตุผลรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและความต้องการที่แท้จริงของประชาชน ในการยุติการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและมุ่งเน้นการฟื้นฟูชีวิตและเศรษฐกิจของประชาชน 

นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล นำแถลงคัดค้านต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน

“พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องขอเชิญชวนประชาชนทั่วประเทศที่ไม่เห็นด้วยกับการขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร่วมการแสดงออกทางการเมืองตามสิทธิเสรีภาพที่ทุกคนมีอยู่ เพื่อช่วยกันกดดันรัฐบาลให้ยุติการลุแก่อำนาจและมุ่งทำงานเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง” นายชัยธวัช กล่าว

นายชัยธวัช ระบุว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตาม พรก.ฉุกเฉิน หรือพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้รวมเวลา 3 เดือน  ช่วงการระบาดประชาชนยอมรับการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และให้ความร่วมมือกับมาตรการต่างๆของรัฐเป็นอย่างดี จนส่งผลให้สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้

แต่ที่พลเอกสมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. ที่ผ่านมา ระบุว่า จะเสนอให้มีการขยายการประกาศพรก.ฉุกเฉิน ออกไปอีกเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อรองรับการผ่อนคลายล็อกดาวน์ ระยะที่ 5 หรือ คลายล็อก เฟส 5  ซึ่งพรรคก้าวไกลเห็นว่าขณะนี้ไม่พบผู้ป่วยในประเทศต่อเนื่องมาถึงวันนี้เป็นเวลา 32 วันแล้ว หากจะพบผู้ป่วยในประเทศอีกในอนาคตศักยภาพของระบบสาธารณสุขที่เตรียมไว้ ก็พร้อมที่จะรับมือได้ ดังนั้นในสถานการณ์เช่นนี้ไม่มีเหตุผลใดเพียงพออีกแล้วที่จะขยายประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเอาไปอีก

“มีกฎหมายปกติที่สามารถควบคุมโรคระบาดได้ แต่การขยาย พรก.ฉุกเฉินออกไปอีก โดยอ้างการคลายล็อกเป็นเหตุผลที่ขัดกันเอง เพราะการคลายล็อกอย่างหนึ่งก็คือการยกเลิกการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน คืนชีวิตปกติให้ประชาชน รัฐบาลสามารถใช้กฎหมายปกติเพื่อควบคุมโรคระบาดได้ แต่สิ่งที่กฎหมายปกติไม่สามารถตอบสนองความต้องการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อย่างเดียวก็คือการควบคุมประชาชน” นายชัยธวัช กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า ดังนั้นเหตุผลที่แท้จริงในการขยายสถานการณ์ฉุกเฉินออกไปก็คือความต้องการที่จะใช้ฉุกเฉินใช้อำนาจตามกฎหมายพิเศษนี้เพื่อควบคุมสิทธิเสรีภาพของประชาชน ที่กำลังไม่พอใจรัฐบาลมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงควบคุมข้อมูลข่าวสารและสื่อมวลชน นอกจากนี้ยังเปิดช่องให้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐสามารถใช้อำนาจได้ตามอำเภอใจ จะเห็นได้ว่าการใช้มาตรการต่างๆ ที่ไม่มีการรับผิดชอบ เช่น การห้ามไม่ให้ประชาชนทำมาหากิน แต่ไม่มีมาตรการใดๆ ที่ชดเชยเยียวยาอย่างสมเหตุสมผล และประชาชนก็ไม่สามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งได้ ซึ่งเป็นปัญหาการใช้อำนาจตาม พรก.ฉุกเฉิน จึงเห็นอาการลุแก่อำนาจโดยใช้ พรก. ฉุกเฉิน ไปดำเนินคดีกับประชาชนและนิสิตนักศึกษาที่ออกมาแสดงออกทางการเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงการใช้เจ้าหน้าที่รัฐทั้งในและนอกเครื่องแบบไปข่มขู่คุกคามประชาชน ที่วิพากษ์วิจารณ์ผู้มีอำนาจ ซึ่งเป็นการใช้อำนาจที่ไม่รับผิดชอบผ่าน พรก.ฉุกเฉิน

นายชัยธวัช กล่าวอีกว่า สิ่งที่ประชาชนต้องการตอนนี้ประชาชนไม่ได้ต้องการกฎหมายพิเศษเพื่อรักษาความมั่นคงของรัฐบาล แต่กำลังต้องการความสามารถและมาตรการพิเศษที่มุ่งรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่หลังวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้งที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มว่าธุรกิจไม่สามารถฟื้นกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมกำลังล้มละลายมากขึ้นเรื่อยๆ คนกำลังตกงานอีกเป็นล้านคน แต่สิ่งที่เห็นกับเป็นการแก่งแย่งเก้าอี้และตำแหน่งทางการเมืองภายในพรรครัฐบาล เป็นการรวมถึงกินเงินทอนกินหัวคิวผ่านงบประมาณมหาศาลที่ต้องกู้ยืมมาและประชาชนต้องแบกรับหนี้ เห็นการลุแก่อำนาจใช้ พรก.ฉุกเฉินเพื่อควบคุมประชาชนไม่ให้แสดงออกทางการเมือง