"ทหารอียิปต์" ล้ม ทราเวลบับเบิ้ล นายกฯ ลั่น "ผมขอรับผิดชอบเอง"

14 ก.ค. 2563 | 17:30 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ค. 2563 | 08:48 น.

อินไซด์ประชุมครม. จ่อพับแผน "ทราเวลบับเบิ้ล(Travel Bubble)" จากกรณี ทหารอียิปต์ติดโควิด-19 นายกฯ เครียดหนัก ลั่น ผมขอรับผิดชอบเอง กลางวงประชุม สั่งอุดรูรั่วทั้งหมด


รายงานข่าวเปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันอังคารที่ 14 ก.ค. ที่ผ่านมา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม มีสีหน้าที่เครียดอย่างมากกับกรณีที่ทหารอียิปต์ ติดเชื้อโควิด-19 ที่ระยอง ทำให้บรรยากาศโดยรวมเคร่งเครียดไปด้วย

 

โดยมีตอนหนึ่ง พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยสีหน้าเคร่งเครียดถึงกรณีดังกล่าวที่เกิดขึ้นว่า "ผมขอรับผิดชอบเรื่องนี้เอง และจะไม่โยนความรับผิดชอบไปให้ใคร"  นอกจากนี้พลเอกประยุทธ์ ก็ย้ำถึงการที่จะต้องอุกรูรั่วของปัญหาทั้งหมด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบวงกว้างกว่านี้

 

รายงานข่าวระบุด้วยว่า ในที่ประชุมครม.ไม่ได้มีการซักถามและแสดงความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติม รวมทั้งไม่มีการกล่าวถึงมาตรการ ทราเวลบับเบิ้ล (Travel bubble) ที่มีแนวคิดจะจับคู่ประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัดด้วยเช่นกัน 

 

ด้านแหล่งข่าวจากสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) เปิดเผยกับฐานเศรษฐกิจว่า มาตรการทราเวลบับเบิ้ล คงจะตัองพับเอาไว้ก่อน ซึ่งเดิมมีการเสนอให้เลื่อนการพิจารณาเอาไว้เพราะคิดว่าเดือนสิงหาคมน่าจะทดลองเริ่มมาตรการได้ แต่เนื่องจากตอนนี้ประชาชนคงคัดค้านอย่างมากกับการให้ชาวต่างชาติเข้ามาประเทศไทย ไม่ว่าจะด้วยมาตรการใดก็ตาม  

ส่วนข้อสั่งการอื่นๆของนายกรัฐมนตรี นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมนายกรัฐมนตรีได้แจ้งที่ประชุมให้ทราบถึงการเข้าพบของผบ.ทบ.สหรัฐอเมริกา ในการหารือไม่ได้มีการพูดถึงสถานการณ์ในทะเลจีนใต้และสงครามทางการค้าเป็นการพูดคุยถึงความสัมพันธ์และการลงนามในร่างเอกสารร่วมกันระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ

 

นอกจากนี้ทางผบ. ทบ.สหรัฐชื่นชมการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด19ของไทยด้วย การหารือส่วนใหญ่หารือทางด้านการทหาร ขณะเดียวกันนายกฯได้ฝากทูตสหรัฐฯ เรื่องความร่วมมือระหว่างไทยและสหรัฐฯในการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังสถานการณ์โควิคลาย นายกฯฝากเชิญชวนนักลงทุนในสหรัฐฯ ให้เข้ามาลงทุนในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ

 

จากนั้นนายกฯยังแจ้งที่ประชุมให้ทราบข่าวดีที่รัฐบาลได้รับการจัดอันดับจากองค์การสหประชาชาติ เรื่องรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ที่ปีนี้เราได้ขึ้นมาอยู่ในอันดับที่ 57 เพิ่มขึ้นมา 6 อันดับ จากเมื่อ 2 ปีที่แล้วอยู่ในอันดับที่ 73 ปี สะท้อนความสำเร็จยุทธศาสตร์ชาติด้านที่ 6

 

นางนฤมลกล่าวว่า นายกฯยังฝากทุกกระทรวงให้เน้นเรื่องแผนยุทธศาสตร์ชาติ เพราะหลังจากที่ไปพบสื่อมวลชนด้านสิ่งพิมพ์สะท้อนให้เห็นว่า เรื่องแผนยุทธศาสตร์ยังต้องทำความเข้าใจเพิ่มขึ้นผ่านสื่อมวลชนไปยังพี่น้องประชาชนว่ายุทธศาสตร์ชาติมีอะไรบ้าง และฝากทุกกระทรวงพัฒนาแผนงานให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติด้วย เน้นย้ำว่าแผนงานต้องยึดโยงกันพร้อมกำชับทุกกระทรวงระมัดระวังเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณโดยเฉพาะแผนฟื้นฟูในพ.ร.ก.เงินกู้  ซึ่งได้รับการจับตามองจากทุกฝ่ายและขอให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด นอกจากนี้ นายกฯฝากเริ่มโครงการสำคัญทั้งหลายที่ นำลงไปพัฒนาพื้นที่เขตจังหวัดชายแดนภาคใต้อยากให้เน้นการพัฒนาเพื่อที่จะแก้ปัญหาความไม่สงบ

นางนฤมลกล่าวว่า ขณะเดียวกันมีข่าวดีเกี่ยวกับการผลิตวัคซีนสำหรับโควิด นายกฯฝากกระทรวงที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม แพทย์ พยาบาล นักวิจัยทั้งหลายรวมถึงการเตรียมการเรื่องความพร้อมในการทดสอบวัคซีน โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมวสาธารณสุขระบุว่าจะต้องมีการทดลองใน 5,000 เคส อาจจะมีข้อจำกัดในประเทศไทยเพราะ ยังมีจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวนไม่มาก อาจจะขอความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่ในแผนที่จะดำเนินการต่อไป


นางนฤมลกล่าวว่า ขณะเดียวกันยังมีเรื่องการประมวลผลข้าราชการ เช่น ก.พ.ร.น่าจะมีการพิจารณาประเมินผลแยกกันสำหรับข้าราชการในแต่ละประเภทในมิติต่างๆไม่ว่าจะเป็นผลงาน วิสัยทัศน์ ทัศนคติ ต้องมีเกณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป ที่นายกฯเน้นย้ำกับครม.คือการรับฟังความคิดเห็น โดยนายกพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนไม่ใช่เฉพาะภาคเอกชนหรือภาคเศรษฐกิจ ยังไปรับฟังจากสื่อมวลชนและจะมีการเปิดเวทีรับฟัง จากประชาชนผ่านช่องทางต่างๆต่อไปรวมถึงและฟังเสียงสะท้อนจากสส.ส.ที่เป็นตัวแทนประชาชนด้วย