ซวยแล้ว “ปารีณา ไกรคุปต์” ตร.ฟันถือครองที่ราชบุรีผิด 4 ข้อหา

02 พ.ย. 2563 | 09:11 น.

ตำรวจสรุปคดี สั่งฟ้อง“ปารีณา ไกรคุปต์”ครอบครองที่ดินราชบุรี เข้าข่ายผิด 4 ข้อหา นัดพนักงานสอบสวนวันที่ 5 พ.ย.นี้ พร้อมเรียก “ทวี ไกรคุปต์”รับทราบข้อกล่าวหาบุกรุกที่ดินรัฐ 23 พ.ย.นี้


ที่บก.ปทส. วันนี้(2 พ.ย.63) พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ผบก.ปทส.) ประชุมคณะพนักงานสอบสวน บก.ปทส. ประกอบไปด้วย พ.ต.อ.ธีระพงษ์ วงศ์มุนีวร ผกก.กลุ่มงานสอบสวน บก.ปทส. พ.ต.อ.คำนวณ จันทร์อนันต์ รองผกก.(สอบสวน)กก.5 บก.ปทส. และคณะทำงาน เพื่อตรวจสำนวนคดีพร้อมสรุปสำนวนคดี น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ กรณีครอบครองที่ดินใน ต.รางบัวอ.จอมบึง จ.ราชบุรี


พล.ต.ต.พิทักษ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน บก.ปทส. ได้ทำการตรวจทานรายละเอียดสำนวนคดีดังกล่าว โดยเบื้องต้นทางบก.ปทส. มีความเห็นสั่งฟ้องตามความเห็นของคณะพนักงานสอบสวน ทั้งนี้อยู่ระหว่างการเตรียมส่งสำนวนคดีดังกล่าวให้พนักงานอัยการ จ.ราชบุรี สั่งฟ้องคดี 


โดย น.ส.ปารีณา ได้แจ้งนัดหมายกับทางพนักงานสอบสวน ในวันที่ 5 พ.ย.ที่จะถึงนี้ เวลา 10.00 น. 


อย่างไรก็ตาม สำนวนที่ทางบก.ปทส.ได้สรุปเพื่อสั่งฟ้องให้อัยการจังหวัดราชบุรี มีทั้งหมด 6 แฟ้มจำนวนกว่า 2408 หน้า และได้สอบปากคำพยานเพิ่มเติมตามที่ น.ส.ปารีณา ร้องขอ 3 ปาก ซึ่งเป็นพยานที่ดินข้างเคียง 

 


 

 

ทั้งนี้ จากการรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่าเข้าข่ายการกระทำความผิด ใน 4 ข้อหา ประกอบไปด้วย 


1.ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ม.14 และ ม.31 “ร่วมกันยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน ก่อสร้าง แผ้วถาง เผาป่า ทำไม้ เก็บหาของป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนชาติ โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่โดยไม่ได้รับอนุญาต”


2.ความผิดตามพ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484“ร่วมกันก่อสร้าง แผ้วถางหรือเผาป่า หรือกระทำด้วยประการใดๆ อันเป็นการทำลายป่าหรือเข้ายึดถือครอบครองป่า เพื่อตนเองหรือผู้อื่น โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินยี่สิบห้าไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่” 


3.ความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน “ร่วมกันเข้าไปยึดถือ ครอบครอง รวมตลอดถึงการก่อสร้างหรือเผาป่า กระทำด้วยประการใด ให้เป็นการทำลาย หรือทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน ที่หิน ที่กรวด หรือที่ทราย ในบริเวณที่รัฐมนตรีประกาศหวงห้ามในราชกิจานุเบกษา หรือทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดอันเป็นอันตรายแก่ทรัพยากรในที่ดิน โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกินกว่าห้าสิบไร่ โดยไม่ได้รับอนุญาต” 


และ 4.ความผิดตามพ.ร.บ.น้ำบาดาลพ.ศ.2520 “ร่วมกันประกอบกิจการน้ำบาดาล ในเขตน้ำบาดาลใดๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้มีสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดิน ในเขตน้ำบาดาลโดยไม่ได้รับอนุญาต”ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุดจำคุก 4-20 ปี ปรับ 200,000-2,000,000บาท ซึ่งในส่วนของน.ส.ปารีณา จะถูกดำเนินคดีในฐานะบุคคลและนิติบุคคลด้วย

 


สำหรับคดีนี้มีผู้กล่าวหา 5 ราย ประกอบไปด้วย นายวีระ สมความคิด ,นายพัฒนะ ศิริมัย นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการสำนักป่าไม้จังหวัดราชบุรี , นายสุรเชษฐ์ ศรีแดงรักษา นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ ผู้อำนวยการป่าไม้จังหวัดราชบุรี,นายวัชระ ละอออ่อน นักวิชาการป่าไม้ปฎิบัติการ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 10 และ นายสมชาย เลขาวิวัฒน์ผอ.สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดราชบุรี ร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีกับ บริษัท ปารีณา ไกรคุปต์ จำกัด โดยมีน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ในฐานะนิติบุคคลและส่วนตัว หลังพบว่าบุกรุกที่ เขาสนฟาร์ม หมู่ที่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 711 ไร่ 2 งาน 93 ตารางวา


 อย่างไรก็ตาม นอกจากการเอาผิด น.ส.ปารีณาแล้ว ทางบก.ปทส.ได้เรียก นายทวี ไกรคุปต์ บิดา ของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ มารับทราบข้อกล่าวหาซึ่งเป็นข้อหาเดียวกันกับทาง น.ส.ปารีณา ในวันที่ 23 พ.ย. หลังถูกร้องเรียนว่าบุกรุกที่ดินรัฐ กว่า 1 พันไร่ บริเวณหมู่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี