"ศรีสุวรรณ"จ่อร้อง มหาเถระ-สำนักพุทธฯ จัดการ "อลัชชี" ร่วมม็อบ

10 พ.ย. 2563 | 02:23 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ย. 2563 | 09:41 น.

“ศรีสุวรรณ” จ่อร้อง มหาเถระ-สำนักพุทธฯ เร่งจัดการเหล่าอลัชชี ร่วมม็อบราษฎร

10 พฤศจิกายน 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีภิกษุ-สามเณร ออกมาร่วมชุมนุมสาธารณะ หรือ ประท้วงทางการเมืองหลายองค์ ล่าสุด คือ ที่ศาลายา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 63 และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 63 ที่ผ่านมาซึ่งสื่อมวลชนและประชาชนได้ถ่ายรูปหน้าตานำมาเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย โดยไม่แคร์หรือเกรงกลัวกฎหมาย และไม่สนใจเสียงครหา ข้อตำหนิติเตียนของพุทธมามกะที่มีต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของการถือครองเพศบรรพชิตแต่อย่างใดไม่นั้น

 

พฤติกรรมและการแสดงออกดังกล่าวภิกษุ-สามเณรเหล่านั้นมิได้ละอายต่อการกระทำของตนแต่อย่างไร และในทางพุทธศาสนามักเรียกขานว่า “อลัชชี” ซึ่งหมายถึง ภิกษุผู้ประพฤตินอกจารีต หรือ ภิกขุผู้มักประพฤติละเมิดพุทธบัญญัติ ซึ่งกระทำตนมิให้เป็นที่เคารพกราบไหว้ของอุบาสก-อุบาสิกา หรือผู้เลื่อมใสในศาสนาพุทธแต่อย่างใด แต่ทำให้ภิกษุ-สามเณรทั่วประเทศที่ประพฤติปฏิบัติอยู่ในศีลอยู่ในธรรมพลอยมัวหมองตามไปด้วย

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

"แกนนำคณะราษฎร" แบะท่าประนีประนอมหาทางออกร่วมกัน

แถลงการณ์ "ภาคีเครือข่ายเพื่อปกป้องสถาบันฯ"ไม่หนุนรัฐประหาร

เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม ม็อบคณะราษฎร 10 พ.ย.63 

 

ทั้งๆที่การที่บุคคลใดมาบวชเป็นพระหรือบรรพชาเป็นสามเณรย่อมต้องปล่อยวาง ละกิเสสปัญหาจากปัญหาทางโลกแล้ว (โลภะ (ความโลภ) โทสะ (ความโกรธ) และโมหะ (ความหลง) ) และควรมุ่งปฏิบัติตนสู่ทางธรรม ตามคำสอนของสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงจะชอบ หากไม่สามารถลดละลงได้ ก็ควรสึกออกไปเป็นฆารวาสเสีย

ทั้งนี้ ภิกษุ-สามเณร ต่างมีศีลบัญญัติและข้อห้ามซึ่งทางมหาเถรสมาคมซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของภิกษุ-สามเณรเป็นผู้กำหนด โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้บังคับใช้ แต่กลับเพิกเฉยที่จะเร่งจัดการเอาผิดหรือเร่งจับสึก ภิกษุ-สามเณรเหล่านี้ที่มาร่วมม็อบที่ผิดกฎหมาย และจาบจ้วงต่อสถาบัน และกระทำการให้เป็นที่แปดเปื้อนต่อบวรพุทธศาสนา

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้องรูปถ่ายหน้าตาภิกษุ-สามเณรต่างๆที่มาร่วมม็อบในแต่ละม็อบ รวมทั้งภิกษุที่กราบไหว้ฆารวาส(อดีตพุทธอิสระ)ด้วยเพื่อนำไปร้องเรียนและมอบให้มหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งนายอนุชา นาคาศัย ในฐานะผู้กำกับ ดูแลสำนักพุทธฯ เพื่อให้เร่งเอาผิด ลงโทษ และหรือจับภิกษุ-สามเณรที่ทำตนเป็นอลัชชีเหล่านี้ให้สึกออกไปจากเพศบรรพชิตเสียให้หมด และจัดส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตามกฎหมาย เพื่อมิให้มากระทำตนแปดเปื้อนต่อบวรพุทธศาสนาต่อไป