10 พฤศจิกายน 2563 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีภิกษุ-สามเณร ออกมาร่วมชุมนุมสาธารณะ หรือ ประท้วงทางการเมืองหลายองค์ ล่าสุด คือ ที่ศาลายา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 63 และที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 63 ที่ผ่านมาซึ่งสื่อมวลชนและประชาชนได้ถ่ายรูปหน้าตานำมาเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์กันอย่างแพร่หลาย โดยไม่แคร์หรือเกรงกลัวกฎหมาย และไม่สนใจเสียงครหา ข้อตำหนิติเตียนของพุทธมามกะที่มีต่อพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของการถือครองเพศบรรพชิตแต่อย่างใดไม่นั้น
พฤติกรรมและการแสดงออกดังกล่าวภิกษุ-สามเณรเหล่านั้นมิได้ละอายต่อการกระทำของตนแต่อย่างไร และในทางพุทธศาสนามักเรียกขานว่า “อลัชชี” ซึ่งหมายถึง ภิกษุผู้ประพฤตินอกจารีต หรือ ภิกขุผู้มักประพฤติละเมิดพุทธบัญญัติ ซึ่งกระทำตนมิให้เป็นที่เคารพกราบไหว้ของอุบาสก-อุบาสิกา หรือผู้เลื่อมใสในศาสนาพุทธแต่อย่างใด แต่ทำให้ภิกษุ-สามเณรทั่วประเทศที่ประพฤติปฏิบัติอยู่ในศีลอยู่ในธรรมพลอยมัวหมองตามไปด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"แกนนำคณะราษฎร" แบะท่าประนีประนอมหาทางออกร่วมกัน
แถลงการณ์ "ภาคีเครือข่ายเพื่อปกป้องสถาบันฯ"ไม่หนุนรัฐประหาร
เกาะติดสถานการณ์การชุมนุม ม็อบคณะราษฎร 10 พ.ย.63
ทั้งๆที่การที่บุคคลใดมาบวชเป็นพระหรือบรรพชาเป็นสามเณรย่อมต้องปล่อยวาง ละกิเสสปัญหาจากปัญหาทางโลกแล้ว (โลภะ (ความโลภ) โทสะ (ความโกรธ) และโมหะ (ความหลง) ) และควรมุ่งปฏิบัติตนสู่ทางธรรม ตามคำสอนของสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงจะชอบ หากไม่สามารถลดละลงได้ ก็ควรสึกออกไปเป็นฆารวาสเสีย
ทั้งนี้ ภิกษุ-สามเณร ต่างมีศีลบัญญัติและข้อห้ามซึ่งทางมหาเถรสมาคมซึ่งเป็นผู้ปกครองสูงสุดของภิกษุ-สามเณรเป็นผู้กำหนด โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เป็นผู้บังคับใช้ แต่กลับเพิกเฉยที่จะเร่งจัดการเอาผิดหรือเร่งจับสึก ภิกษุ-สามเณรเหล่านี้ที่มาร่วมม็อบที่ผิดกฎหมาย และจาบจ้วงต่อสถาบัน และกระทำการให้เป็นที่แปดเปื้อนต่อบวรพุทธศาสนา
ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความพร้องรูปถ่ายหน้าตาภิกษุ-สามเณรต่างๆที่มาร่วมม็อบในแต่ละม็อบ รวมทั้งภิกษุที่กราบไหว้ฆารวาส(อดีตพุทธอิสระ)ด้วยเพื่อนำไปร้องเรียนและมอบให้มหาเถรสมาคมและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ รวมทั้งนายอนุชา นาคาศัย ในฐานะผู้กำกับ ดูแลสำนักพุทธฯ เพื่อให้เร่งเอาผิด ลงโทษ และหรือจับภิกษุ-สามเณรที่ทำตนเป็นอลัชชีเหล่านี้ให้สึกออกไปจากเพศบรรพชิตเสียให้หมด และจัดส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตามกฎหมาย เพื่อมิให้มากระทำตนแปดเปื้อนต่อบวรพุทธศาสนาต่อไป