อสังหาเชียงใหม่หงอย ครึ่งปียอดวูบ40%โอดมีแต่ดูไม่ยอมซื้อ

อสังหาฯเชียงใหม่ครึ่งปีแรกนิ่งสนิท ประธานหอฯชี้ยอดขายวูบ 30-40% จี้รัฐบาลเร่งฟอร์มครม. ออกมาตรการกระตุ้นปลุกความเชื่อมั่น ให้ผู้บริโภคกล้าจับจ่ายเพื่อเศรษฐกิจเดินเครื่องอีกครั้ง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) สำรวจตลาดที่อยู่อาศัยภาคเหนือ (เชียงใหม่-เชียงราย) ครึ่งหลังปี 2561 พบว่า มีจำนวนหน่วยเหลือขายอยู่ถึง 10,762 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 41,124 ล้านบาท

นายวโรดม ปิฏกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ ผู้พัฒนาโครงการบ้านจัดสรรเดอะ พรอมิเน้นซ์ เปิดเผยว่า สภาพตลาดอสังหาฯเชียงใหม่ตั้งแต่ต้นปีชะงักงันมาตลอด ยอดขายลดลงประมาณ 30-40% เพราะผู้ซื้อขาดความมั่นใจ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของธุรกิจนี้ ถ้าความมั่นใจไม่มีคนจะไม่กล้าตัดสินใจซื้อ เพราะว่าอสังหาฯมีมูลค่าสูง สถานการณ์ปัจจุบัน นิ่งเลย มีคนมาดูแต่ไม่ซื้อ ด้านนักลงทุนที่จะขึ้นโครงการใหม่ใครชะลอได้ตอนนี้ชะลอหมด มีแต่โครงการที่ลงไปแล้วก็ต้องกัดฟันเดินหน้าต่อที่ยังไม่ได้ลงก็ชะลอเลย เพราะทุกโครงการตอนนี้จะนิ่งหมดเลย

ความไม่มั่นใจมาจากการจัดตั้งรัฐบาลยังไม่ลงตัว ไม่แน่ใจว่านโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่จะไปทางไหน จึงต้องจัดตั้งรัฐบาลให้ได้และรีบออกมาตรการด้านเศรษฐกิจมาโดยเร็ว รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้ได้ว่ารัฐบาลนี้อยู่ได้ นอกจากนี้ยังมีผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจโลก ปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีน ทำให้เศรษฐกิจทั้งคู่ทรุดลง ที่ส่งผลมากคือเศรษฐกิจจีน พอชะลอตัวรัฐบาลก็ออกมาตรการห้ามประชาชนเขานำเงินออกมาซื้ออสังหาฯในต่างประเทศ และกระตุ้นให้จับจ่ายเที่ยวในประเทศมากขึ้น

นายวโรดมกล่าวอีกว่า มาตรการไม่ให้คนจีนนำเงินออกนอกประเทศ โดยเฉพาะข้าราชการที่ห้ามนำเงินไปซื้ออสังหาฯในต่างแดนนั้นกระทบค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเชียงใหม่ ที่มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศประมาณ 3 ล้านคนต่อปี เป็นนักท่องเที่ยวจีนกว่า 2 ล้านคน ประมาณ 60-70% ถ้าโดนห้ามไม่ให้นำเงินออกมาซื้ออสังหาฯจากต่างประเทศ กำลังซื้อก็หายไปมากพอสมควร

ทั้งนี้ เนื่องจากธุรกิจพัฒนาอสังหาฯใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง หากมีสัญญาณชะลอตัวทุกคนก็หยุดขึ้นโครงการใหม่ แต่จะหยุดนิ่งไม่ขยับเลยนานไม่ได้ เพราะยังแบกต้นทุนค่าใช้จ่ายประจำและโครงการที่ลงทุนไปแล้ว ที่มีภาระดอกเบี้ยเดินทุกวัน ต้องดิ้นรนหาแหล่งทุนจากภายนอกมาเติม เพื่อให้มีเงินหมุนเวียนในบริษัท โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายกลางถึงเล็ก

ดังนั้น หากรัฐบาลจะมีมาตรการด้านอสังหาฯออกมา นอกจากการกระตุ้นทาง ด้านผู้บริโภคแล้ว ต้องหาวิธีช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วย ทั้งรายเล็ก รายกลาง และรายใหญ่ แต่รายเล็กและรายกลางต้องการเงินทุนหมุนเวียนเข้ามาเติมเพื่อเสริมสภาพคล่อง

ในส่วนของหอการค้าเชียงใหม่ มีโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการสมาชิก โดยจัด SMEs คลินิก โดยเชิญธนาคารพันธมิตรหมุนเวียนกันนำผู้เชี่ยวชาญด้านการเงิน มาช่วยให้คำแนะนำสมาชิกทุกเดือน เพื่อช่วยตรวจสุขภาพทางการเงิน ให้แนวทางการปรับปรุงโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแรงขึ้น การเพิ่มวงเงินสินเชื่อ ตลอดจนบริการทางการเงินแพ็คเกจใหม่ๆ โดยจะเริ่มในเดือนกรกฎาคมนี้เป็นต้นไป 

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 39 ฉบับที่ 3,481 วันที่ 23 - 26 มิถุนายน 2562