เคาะ “เวนคืนที่ดิน” 339 ไร่ 2ตำบล เมืองมุกดาหาร 

14 ต.ค. 2563 | 06:00 น.

ครม.อนุมัติหลักการ ร่างพระราชกฤษฎีกาฯ “เวนคืนที่ดิน” จำนวน 339 ไร่ ในพื้นที่ 2 ตำบล เมืองมุกดาหาร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันที่ 12 ตุลาคม 2563 มีมติอนุมัติหลักการ "เวนคืนที่ดิน" หรือ ร่างพระราชกฤษฎีกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. ....

 

ตามที่กระทรวงคมนาคม (คค.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ และให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

 

สาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกา

 

เป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร เพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท มห. 3019 เพื่อเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและเพื่อปรับปรุงเส้นทางการขนส่งสินค้าจากพื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เคาะ “เวนคืนที่ดิน” 247 ไร่ 3ตำบล เมืองพิษณุโลก 

ครม. เคาะ “เวนคืนที่ดิน” โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว จุดไหนบ้าง เช็กได้ที่นี่

ครม.เคาะ “เวนคืนที่ดิน” โครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จุดไหนบ้าง เช็กได้ที่นี่

เช็กที่นี่ มติครม. เคาะ “เวนคืนที่ดิน" ขยายทางหลวงท้องถิ่น เขตพระนคร

 

รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มโครงข่ายโลจิสติกส์สำหรับการขนส่งสินค้าจากจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดยโสธร ออกสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวโดยไม่ต้องผ่านตัวเมืองมุกดาหาร และเพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีสิทธิเข้าไปทำการสำรวจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืนที่แน่นอน 

เรื่องที่กระทรวงคมนาคมเสนอต่อที่ประชุมครม.ว่า

 

1. โดยที่เป็นการสมควรดำเนินโครงการเพื่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท มห. 3019 ในท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหารเพื่อเตรียมความพร้อมและสนับสนุนการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษและเพื่อปรับปรุงเส้นทางการขนส่งสินค้าจากพื้นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรม ในพื้นที่ตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร กับสะพานมิตรภาพไทย - ลาวแห่งที่ 2 รวมทั้งยังเป็นการเพิ่มโครงข่ายโลจิสติกส์สำหรับการขนส่งสินค้าจากจังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดยโสธร ออกสู่ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โดยไม่ต้องผ่านตัวเมืองมุกดาหาร อันจะทำให้การจราจรและการขนส่งมีความสะดวกยิ่งขึ้น

 

2. กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการสำรวจและออกแบบรายละเอียดโครงการก่อสร้างและขยายทางหลวงชนบท มห. 3019 แล้ว โดยลักษณะของโครงการเริ่มต้นจากแยกทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (บริเวณ กม.ที่ 426+600) สิ้นสุดโครงการที่ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 12 (บริเวณ กม.ที่ 781+000) เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจร ชนิดผิวจราจรคอนกรีตเสริมเหล็ก เกาะกลางแบบยกกว้าง 5.10 เมตร ช่องจราจรกว้างช่องละ 3.50 เมตร ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 เมตร เขตทางกว้าง 40.00 – 60.00 เมตร มีระยะทางประมาณ 13.519 กิโลมตร มีพื้นที่ที่ถูกเวนคืนประมาณ 339 ไร่ (398 แปลง) มีอาคารและสิ่งปลูกสร้างที่ถูกเวนคืนประมาณ 66 รายการ ใช้งบประมาณในการดำเนินโครงการ ประมาณ 1,446.9660 ล้านบาท (ใช้งบประมาณในการสำรวจอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 11.0000 ล้านบาท ค่าทดแทนอสังหาริมทรัพย์ประมาณ 461.0000 ล้านบาท และค่าก่อสร้าง ประมาณ 974.9660 ล้านบาท)


3. การวิเคราะห์โครงการ สรุปผลดังนี้

 - ความเหมาะสมในการดำเนินโครงการ พบว่ามูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) มีค่า 573.54 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนทางด้านเศรษฐกิจ (EIRR) มีค่า 16.95% อัตราผลประโยชน์ต่อต้นทุน (B/C Ratio) มีค่า 1.47 ซึ่งถือได้ว่าโครงการดังกล่าวนี้มีความเหมาะสมในการดำเนินการ และหากพิจารณาถึงผลประโยชน์ทางอ้อมที่เกี่ยวกับการรองรับการขยายตัวของเมืองและการพัฒนาพื้นที่ในอนาคตโครงการก็จะมีความเหมาะสมมากขึ้นอีก

 

- การคาดการณ์ปริมาณการจราจรในอนาคต กรณีที่มีโครงการฯ กับกรณีที่ไม่มีโครงการฯมีผลการวิเคราะห์ ดังนี้

เคาะ “เวนคืนที่ดิน” 339 ไร่ 2ตำบล เมืองมุกดาหาร 

4. สำนักงบประมาณเห็นว่า กรมทางหลวงชนบทจะดำเนินโครงการก่อสร้างถนนสาย มห. 3019 แยก ทล.212 - บ.บางทรายใหญ่ (ตอนที่ 2) อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร โดยขยายผิวจราจร จาก 2 ช่องจราจร เป็น 4 ช่องจราจร พร้อมเกาะกลางและทางเท้าระยะทางประมาณ 13.519 กิโลเมตร ประมาณค่าจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน จำนวน 461.0000 ล้านบาทโดยกรมทางหลวงชนบทแผนการจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินและแผนการเบิกจ่ายค่าทดแทนในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 - พ.ศ. 2566 ดังนั้น กรมทางหลวงชนบทควรจะเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาจัดสรรงบประมาณให้ตามความจำเป็นและเหมาะสม เมื่อร่างพระราชกฤษฎีกานี้ใช้บังคับแล้ว


5. กรมทางหลวงชนบทได้ดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น ของผู้ได้รับผลกระทบกับโครงการก่อสร้างและขยายทางหลวงชนบทสายดังกล่าวแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว

 

จึงได้เสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลโพนทราย และตำบลคำอาฮวน อำเภอเมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร พ.ศ. .... มาเพื่อดำเนินการ