กระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์เปิดเผยว่า มีผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้น 4 รายในวันนี้ โดยหนึ่งในนั้นเป็นทารกอายุ 6 เดือนนอกจากนี้ พ่อแม่ของทารกรายดังกล่าว ซึ่งเป็นชาวสิงคโปร์ ก็ติดเชื้อทั้งสองคนเช่นกัน
เมื่อวานนี้ (5 ก.พ.63) ทางการสิงคโปร์ระบุว่า ชาวสิงคโปร์รายหนึ่งติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แม้ว่าเขาไม่ได้เดินทางไปยังประเทศจีนในช่วงนี้ก็ตาม ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีการพบผู้ป่วยในกรณีดังกล่าว
ขณะที่องค์การอนามัยโลก(ดับบลิวเอชโอ) กำลังทำการสอบสวน หลังมีข่าวว่า ชาวมาเลเซียและชาวเกาหลีใต้ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากที่ได้ไปประชุมที่สิงคโปร์ ทั้งนี้ ชายชาวมาเลเซียวัย 41 ปีรายหนึ่ง และชายชาวเกาหลีใต้วัย 38 ปีรายหนึ่งติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจากที่ได้ไปประชุมทางธุรกิจที่โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท สิงคโปร์ ในช่วงสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนม.ค. โดยการประชุมดังกล่าวมีชาวจีนหลายคนเข้าประชุมด้วย
ด้านนายเจอรัลด์ เค็ง โฆษกของโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท สิงคโปร์ ยืนยันว่า ชาวมาเลเซียรายดังกล่าวได้เข้าพักที่โรงแรมเป็นเวลา 1 สัปดาห์ในช่วงกลางเดือนม.ค. แต่นายเค็งยืนยันว่า โรงแรมให้ความสำคัญต่อการรักษาความสะอาด และยังไม่ปรากฎข่าวว่ามีแขกคนอื่นๆ หรือพนักงานโรงแรมติดเชื้อไวรัสดังกล่าว ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ไม่ได้แจ้งทางโรงแรมว่าชายดังกล่าวติดเชื้อไวรัสได้อย่างไร, ติดจากที่ใด และเมื่อใด
ขณะนี้ ดับบลิวเอชโอกำลังประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุขของสิงคโปร์เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
นางโอลิเวีย ลอว์ เดวีส์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารในภูมิภาคของดับบลิวเอชโอ กล่าวว่า จากข้อมูลที่ได้รับในขณะนี้ ยังไม่มีหลักฐานที่แสดงถึงการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสในชุมชนอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ดับบลิวเอชโอ ให้ความสนใจต่อกรณีดังกล่าว หลังจากที่เคยเกิดเหตุการณ์เมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง (ซาร์ส) ซึ่งนายแพทย์คนหนึ่งจากมณฑลกวางตุ้งของจีนได้ติดเชื้อซาร์ส และได้แพร่กระจายเชื้อดังกล่าวแก่แขกหลายคนในโรงแรมแห่งหนึ่งในฮ่องกง และแขกเหล่านี้ก็ได้กระจายเชื้อซาร์สไปยังเมืองต่างๆ เช่น โตรอนโต ฮานอย และสิงคโปร์