“ทรัมป์” สวนคำแนะปชช.ใส่หน้ากากผ้ากันโควิด ย้ำขอเลือก “ไม่ใส่”

04 เม.ย. 2563 | 05:39 น.
อัปเดตล่าสุด :04 พ.ค. 2563 | 07:35 น.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกาเปิดเผยที่ทำเนียบขาววานนี้ (3 เม.ย.) ว่า รัฐบาลสหรัฐฯได้แนะนำให้ประชาชนใส่หน้ากากผ้าหรือผ้าคลุมหน้าในที่สาธารณะ ซึ่งเป็นมาตรการ “โดยสมัครใจ” เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่ตัวเขาเอง ขอเลือกที่จะไม่ทำเช่นนั้น

 

"ผมขอเลือกที่จะไม่ใส่"

 

คำแนะนำดังกล่าวออกโดย ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) มีเป้าหมายเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 จากผู้อื่น คำแนะนำครั้งนี้ เปลี่ยนแปลงไปจากคำแนะนำที่ออกมาก่อนหน้า ที่แนะนำให้เฉพาะผู้ป่วยและผู้ที่แสดงอาการป่วยเท่านั้น ที่จำเป็นต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่น   

CDC ไม่แนะนำให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยที่ใช้ทางการแพทย์ หรือหน้ากาก N-95

 

แต่จากผลการศึกษาในช่วงที่ผ่านมาพบว่า ผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวนมาก ไม่ได้แสดงอาการป่วยแต่ก็ยังคงสามารถแพร่เชื้อสู่ผู้อื่นได้ ดังนั้น CDC จึงได้ตัดสินใจเรียกร้องให้ประชาชนทุกคนสวมหน้ากากผ้าหรือใช้ผ้าปกปิดใบหน้า (cloth face coverings)ในที่สาธารณะเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว แต่ไม่แนะนำให้ประชาชนใช้หน้ากากอนามัยที่ใช้ทางการแพทย์ หรือหน้ากาก N-95 เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ควรสงวนไว้ให้บุคลากรทางการแพทย์ที่จำเป็นต้องใช้มากกว่า

 

นอกจากนี้ CDC ยังระบุว่า การใส่หน้ากากผ้าในที่สาธารณะเป็นเพียงมาตรการเสริมเพื่อการป้องกันและไม่เป็นภาระค่าใช้จ่ายสำหรับประชาชนมากนัก  แต่ไม่ใช่มาตรการที่จะมาใช้แทนการเว้นระยะห่างทางสังคมในรูปแบบอื่น ๆ ที่ CDC แนะออกมาก่อนหน้านี้ เช่น เมื่ออยู่ในที่สาธารณะให้พยายามเว้นระยะอยู่ห่างจากบุคคลอื่น 6 ฟุต เป็นต้น

ทวีตของนางเมลานี ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข1

 

สื่อของสหรัฐฯ รายงานว่า ท่าทียืนยันจะไม่ใส่หน้ากากผ้าของประธานาธิบดีทรัมป์นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความไม่เป็นเอกภาพระหว่างความเห็นส่วนตัวของผู้นำ กับนโยบายของรัฐบาลในการรับมือกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐฯในช่วงเวลานี้ แม้ในขณะที่ทรัมป์กล่าวว่า เขาเลือกที่จะ "ไม่ใส่" หน้ากาก  นางเมลานี ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ภริยาของเขาก็เพิ่งจะทวีตข้อความเชิญชวนให้ชาวอเมริกันทุกคนร่วมใจกันเว้นระยะห่างทางสังคมและใส่หน้ากากหรือใช้ผ้าปิดหน้า ขอให้ทุกคนร่วมใจกันอย่างจริงจัง เพราะเชื้อไวรัสนี้สามารถแพร่กระจายไปถึงทุกคน ชาวอเมริกันจึงต้องร่วมมือกัน