“โควิด”ป่วนทัพเรือสหรัฐฯ พบลูกเรือ 26 ลำยืนยันติดเชื้อ

เว็บไซต์ military.com เปิดเผยว่า จนถึงขณะนี้มีการตรวจพบว่า ลูกเรือของกองทัพเรือสหรัฐฯจำนวน 26 ลำเป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 และล่าสุด มีรายงานของกองทัพเรือเปิดเผยว่า ลูกเรืออย่างน้อย 840 คนบนเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ (USS Theodore Roosevelt) มีผลการตรวจเชื้อโควิด-19 เป็นบวก และจำนวนยังอาจเพิ่มขึ้นมากกว่านี้เนื่องจากผลการตรวจของลูกเรือบางคนยังไม่ออกมา

เรือดังกล่าวเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ขณะลูกเรือรับการตรวจเชื้อโควิด-19 นั้น เรือยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ กำลังจอดเทียบท่าอยู่ที่เกาะกวม และมีลูกเรือจำนวนทั้งสิ้น 5,000 คน ทั้งนี้ ในช่วงที่มีข่าวออกมาใหม่ๆเกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19 ของลูกเรือลำนี้ นาวาเอก เบรตต์ โครเซีย ผู้บังคับการเรือ ซึ่งส่งข้อความออกมาขอความช่วยเหลือ ได้ถูกสั่งปลดโดยรักษาการผู้บัญชาการกองทัพเรือในขณะนั้น โครเซียเองก็เป็นผู้หนึ่งที่ติดเชื้อโควิด-19 และในบรรดาลูกเรือกว่า 800 คนที่ติดเชื้อนั้น มี 1 คนคือ พันจ่าโท ชาร์ลส์ โรเบิร์ต แธกเกอร์ จูเนียร์ วัย 41 ปี จากเมืองฟอร์ตสมิธ รัฐอาร์คันซอ ได้เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนที่เกี่ยวข้องกับเชื้อโควิด-19 ณ โรงพยาบาลกองทัพเรือสหรัฐฯ บนเกาะกวมเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

เว็บไซต์ military.com รายงานว่า เรือของกองทัพเรือสหรัฐ 26 ลำที่ตรวจพบว่ามีลูกเรือที่เป็นผู้ติดเชื้อโควิด-19 นั้น ทุกลำจอดเทียบท่าแล้ว ส่วนเรือของกองทัพอีก 90 ลำที่กำลังปฏิบัติการอยู่ในทะเลเวลานี้ ไม่มีลำใดที่ตรวจพบการติดเชื้อของลูกเรือ ทั้งนี้ เว็บไซต์อ้างแหล่งข่าวกองทัพเรือว่า ทางกองทัพมีเรือรบจำนวนทั้งสิ้น 297 ลำ

ข่าวระบุว่า กองทัพเรือสหรัฐเป็นหน่วยงานของกองทัพที่มีการตรวจพบการติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด โดยมีจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ยืนยันตรวจพบการติดเชื้อจำนวนทั้งสิ้น 997 ราย ส่วนใหญ่มาจากเรือยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลต์ ซึ่งเข้าเทียบท่าเกาะกวมตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา

ข่าวดังกล่าวได้รับการเผยแพร่ไปทั่วโลกและยังตกเป็นหนึ่งในประเด็นการเผชิญหน้าระหว่างประเทศเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ออกมาทวีตข้อความเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า เขาสั่งให้กองทัพเรือสหรัฐยิงและทำลายเรือปืนของอิหร่านได้ทุกลำหากก่อให้เกิดอันตรายต่อเรือสหรัฐในอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโฆษกของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน(IRGC) ได้ออกมาตอบโต้ว่า “แทนที่สหรัฐฯจะมารังแกคนอื่นอย่างวันนี้ พวกชาวอเมริกันควรทุ่มเทความพยายามเพื่อช่วยเหลือสมาชิกกองทัพของตัวเองที่กำลังติดเชื้อไวรัสโคโรนาโควิด-19 จะดีกว่า”