ระงมทวิตเตอร์ สิ้นคิม จอง อึน

25 เม.ย. 2563 | 06:47 น.
อัปเดตล่าสุด :26 เม.ย. 2563 | 11:53 น.

ยังคงเป็นปริศนากับการหายหน้าจากกิจกรรมทางสาธารณะของนายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือวัย 36 ปีว่าเขาหายไปไหนและยังมีชีวิตอยู่ดีหรือไม่

หลังจากมีรายงานข่าวจากซีเอ็นเอ็นเมื่อวันอังคาร (21 เม.ย.) อ้างอิงแหล่งข่าวจากสหรัฐฯ ว่า ผู้นำเกาหลีเหนือกำลังป่วยหนักหลังเข้ารับการผ่าตัดหลอดเลือดหัวใจเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ที่ผ่านมา ล่าสุดวันนี้(25 เม.ย.) มีรายงานข่าวจากสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมของฮ่องกงออกมาระบุว่า นายคิม จอง อึน สิ้นชีวิตแล้ว โดยมีรายงานอีกชิ้นอ้างอิงแหล่งข่าวจากหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ระบุการเสียชีวิตของนายคิมเช่นกัน ทำให้หลังจากนั้นมีการการโพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์จากผู้คนจำนวนมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าผู้นำเกาหลีเหนืออาจจะสิ้นชีวิตแล้ว  

ระงมทวิตเตอร์ สิ้นคิม จอง อึน

ระงมทวิตเตอร์ สิ้นคิม จอง อึน

ระงมทวิตเตอร์ สิ้นคิม จอง อึน

อย่างไรก็ตาม ข่าวของนายคิม จอง อึน ยังคงเป็นปริศนาและไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ เขาปรากฏตัวทางสื่อของเกาหลีเหนือครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีการปรากฏตัวเป็นข่าวอีกเลย และการที่เขาไม่ปรากฏตัวแม้ในงานฉลองครอบรอบวันคล้ายวันเกิดของอดีตผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ นายคิม อิล ซุง ซึ่งเป็นปู่ของเขาเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา ก็ยิ่งเป็นการจุดกระแสการคาดเดาต่าง ๆ นานา เกี่ยวกับสุขภาพของเขา

ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเกาหลีเหนือไม่มีสื่อมวลชนเสรี ข่าวต่าง ๆ ของทางการถูกควบคุมอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะข่าวเกี่ยวกับตัวผู้นำสูงสุดของประเทศถือเป็นหลุมดำด้านข่าวสารข้อมูลเลยทีเดียว

 

ระงมทวิตเตอร์ สิ้นคิม จอง อึน

สื่อต่างประเทศรายงานล่าสุดวันนี้ว่า  จีนได้ส่งทีมแพทย์จากปักกิ่งไปยังกรุงเปียงยาง เมืองหลวงของเกาหลีเหนือเพื่อเช็กอาการโคม่าของนายคิม จอง อึน ตั้งแต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (23 เม.ย.) ข่าวที่เกี่ยวข้อง “คิม จอง อึน” โคม่า จีนส่งทีมแพทย์เช็กอาการ

ขณะที่เกาหลีใต้ยืนยัน ผู้นำเกาหลีเหนือยังมีชีวิตอยู่ เช่นเดียวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ออกมาบอกว่า ข่าวลือเกี่ยวกับนายคิมป่วยหนักนั้น น่าจะเป็น “ข่าวเท็จ” โดยทรัมป์กล่าวที่ทำเนียบขาววานนี้ (24 เม.ย.) ว่า "ผมคิดว่ารายงานข่าวนั้นไม่ถูกต้อง ผมทราบมาว่าพวกเขาใช้เอกสารชุดเก่า" นอกจากนี้ ยังระบุว่า "ผมหวังว่าเขาจะสบายดี และผมคิดว่าซีเอ็นเอ็นรายงานข่าวเท็จ"

 

ทั้งนี้  ทรัมป์ได้พบกับผู้นำเกาหลีเหนือ 3 ครั้งในปี 2561 และ 2562 เพื่อเจรจาปลดอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี แต่เมื่อถูกถามว่า เขาได้ติดต่อกับฝ่ายผู้นำเกาหลีเหนือหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า "ผมจะไม่พูดถึงเรื่องนี้"

 

นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญเกาหลีเหนือศึกษาให้ความเห็นว่า การไม่ปรากฏตัวของนายคิม จอง อึน ในวาระโอกาสที่สำคัญเป็นเรื่องน่าสงสัย และเป็นตัวจุดประกายข่าวลือเกี่ยวกับสุขภาพของเขาไม่ว่าจะเป็นเรื่องการสูบบุหรี่หนัก โรคหัวใจ หรืออาการทางสมอง  แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเจ็บป่วยหนักจริง ๆ หรือแม้กระทั่งเสียชีวิต เพราะในอดีต นายคิม จอง อึน เคยหายหน้าจากสื่อต่าง ๆ มากกว่า 1 เดือนเต็มๆ ในปี 2557  แต่สุดท้ายเขาก็กลับมาปรากฏตัวอีกครั้งพร้อมไม้เท้า ซึ่งครั้งนั้นข่าวกรองเกาหลีใต้ระบุว่า ผู้นำเกาหลีเหนือเข้ารับการผ่าตัดนำก้อนซีสต์ออกจากบริเวณข้อเท้า

 

บรูซ คลิงเกอร์ นักวิจัยอาวุโสจากมูลนิธิ เฮอริเทจ ฟาวเดชั่น และเป็นอดีตรองหัวหน้าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯโต๊ะเกาหลีเหนือ ได้ให้ความเห็นว่า ที่ผ่านมามีข่าวลือหลายครั้งเกี่ยวกับสุขภาพของผู้นำเกาหลีเหนือทั้งยุคของนายคิม จอง อึน และพ่อของเขา (คิม จอง อิล) ซึ่งต่อมาก็มีเหตุการณ์พิสูจน์ว่าข่าวลือเหล่านั้นไม่เป็นความจริง “เราคงต้องรอดูกันต่อไป”

พร้อมยกตัวอย่าง ในปี 2551 นายคิม จอง อิล บิดาของนายคิม จอง อึน ขณะนั้นยังดำรงตำแหน่งผู้นำ เขาไม่ปรากฏตัวในงานพาเหรดเฉลิมฉลองเอกราช 60 ปีของเกาหลีเหนือ ทำให้เกิดข่าวลือสะพัดเกี่ยวกับสุขภาพของเขา แต่ในที่สุดก็มีข่าวแถลงออกมาว่า เขาป่วยด้วยโรคหัวใจ ซึ่งทำให้สุขภาพอ่อนแอลงกระทั่งสุดท้ายเขาก็เสียชีวิตในปี 2554