“มินนิอาโปลิส”จลาจลเดือด ประท้วงตำรวจทำรุนแรงเกินเหตุ

ผู้ประท้วงหลายร้อยคนในเมืองมินนิอาโปลิส มลรัฐมินเนโซตา สหรัฐอเมริกา ก่อเหตุจลาจลเผาเมืองและปล้นสะดมอย่างต่อเนื่องวานนี้ (28 พ.ค.) ซึ่งเป็นวันที่สองของการประท้วง จากเหตุไม่พอใจเจ้าหน้าที่ตำรวจที่กระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุจนส่งผลให้ชายผิวสีคนหนึ่งต้องเสียชีวิต

ต้นเหตุความเดือดดาลเป็นคลิปวีดีโอที่เผยแพร่ไปทั่วในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 25 พ.ค ที่ผ่านมา โดยผู้เห็นเหตุการณ์ได้ถ่ายคลิปนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายชาวแอฟริกัน-อเมริกันวัย 46 ปี ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวของมินนิอาโปลิส จับกุมตัวในฐานะผู้ต้องสงสัยกรณีใช้ธนบัตรปลอม โดยเขาถูกใส่กุญแจมือกดไว้กับพื้น และตำรวจได้กดเข่าลงบนคอของเขานานกว่า 7 นาที ระหว่างนั้นเขาพยายามส่งเสียงพึมพำขอความช่วยเหลือ "ได้โปรด ผมหายใจไม่ออก" ก่อนค่อยๆ หมดสติไป

คลิปวีดีโอดังกล่าวถูกแชร์ไปทั่วโซเชียลพร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงวิธีการของตำรวจมินนิอาโปลิสที่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุทั้งที่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีขัดขืน คลิปวิดีโอที่น่าสะเทือนใจครั้งนี้ ทำให้หลายคนหวนนึกถึงเหตุการณ์คล้ายคลึงกันซึ่งเกิดขึ้นในปี 2557 เมื่อนายเอริก การ์เนอร์ ชายผิวสีไร้อาวุธ เสียชีวิตระหว่างถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจนิวยอร์กล็อกคอเพื่อควบคุมตัว

หลังคลิปถูกเผยแพร่ออกไป ตำรวจผิวขาวสี่คนที่เกี่ยวข้อง ถูกไล่ออกจากงานทันที แต่นั่นยังไม่พอ และประโยค "ผมหายใจไม่ออก" ซึ่งเป็นคำร้องขอของผู้เสียชีวิต ก็กลายเป็นเสียงปลุกระดมการประท้วงต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่อันไม่ถูกต้องชอบธรรมของตำรวจทั่วสหรัฐฯขึ้นมาอีกครั้ง ผู้ชุมนุมได้ออกเดินบนท้องถนนใกล้กับจุดที่นายฟลอยด์เสียชีวิต พร้อมกับตะโกนเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับผู้ตาย

อย่างไรก็ตาม หลังจากที่นายเจค็อบ เฟรย์ นายกเทศมนตรี เรียกร้องคณะอัยการยื่นดำเนินคดีอาญากับตำรวจผิวขาวที่กดคอนายฟลอยด์บนถนน บรรดาผู้ประท้วงหลายร้อยคนยังก็ออกอาละวาดไปตามท้องถนนสายต่าง ๆ รอบ ๆ สถานีตำรวจเติร์ด พรีซิงท์ ในช่วงค่ำวันพุธ (27 พ.ค. เวลาท้องถิ่นสหรัฐ) จากนั้นฝูงชนได้เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ และเหตุประท้วงกลายเป็นการเผชิญหน้าบริเวณด้านนอกสถานีตำรวจ โดยตำรวจในชุดปราบจลาจลได้ใช้แก๊สน้ำต กระสุนยาง และระเบิดควัน เพื่อควบคุมฝูงชน แต่ทางพวกผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยก้อนหินและวัตถุอื่น ๆ บางส่วนขว้างกระป๋องแก๊สน้ำตากลับเข้าใส่เจ้าหน้าที่

นอกจากนี้ ยังมีเหตุเพลิงไหม้ร้านค้าในบริเวณนั้นหลายร้าน และมีรายงานว่าผู้คนหลายสิบคนฉวยโอกาสเข้าปล้นห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งด้วย

นายทิม วิลต์ซ ผู้ว่าการรัฐมินเนโซตา ได้ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนออกจากบริเวณพื้นที่รอบสถานีตำรวจโดยเตือนว่าขณะนี้สถานการณ์ดังกล่าวเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความระบุว่า การเสียชีวิตของนายฟลอยด์นั้นเป็นโศกนาฏกรรมที่น่าเศร้าใจ แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 4 นายได้ถูกไล่ออกแล้ว และมีการสั่งการให้สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) เข้ามาสอบสวนคดีดังกล่าวแล้ว