2 มิถุนายน 2563 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ แถลงเกี่ยวกับสถานการณ์ประท้วงและจลาจลเรียกร้องความเท่าเทียมทางสีผิว ที่ทวีความรุนแรงและลุกลามบานปลายไปทั่วสหรัฐ จากกรณีที่จอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีที่เสียชีวิตหลังจากตำรวจใช้หัวเข่ากดคอเขาไว้กับพื้นนานเกือบ 9 นาที
โดย ทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลของเขาไม่เคยขัดขวางการชุมนุมประท้วงและการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่เป็นไปตามกรอบกฎหมาย แต่หลายวันที่ผ่านมามีการจี้ปล้น ทำร้ายร่างกาย ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ ซึ่งถือการก่อการร้ายภายในชุมชน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับพฤติการณ์ดังกล่าวต้องถูกลงโทษสถานหนักตามกฎหมาย พร้อมประณามเหตุการณ์ประท้วงรอบทำเนียบขาวว่าน่าอับอายขายหน้า
ผู้นำสหรัฐมีคำสั่งเด็ดขาดให้นายกเทศมนตรีของเมืองต่างๆ และผู้ว่าการรัฐต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างรุนแรงมากขึ้น จนกว่าความรุนแรงจะสงบลง ไม่เช่นนั้นเขาจะประกาศคำสั่งเคอร์ฟิวในระดับรัฐบาลกลาง และจะบังคับใช้กฎหมายปี 1807 หรือเมื่อ 213 ปีที่แล้ว เพื่อเคลื่อนกำลังทหารสหรัฐฯ ทั่วประเทศ เข้าไปควบคุมสถานการณ์
แม้รัฐธรรมนูญของสหรัฐระบุชัดเจน ว่าห้ามทุกเหล่าทัพของกองทัพสหรัฐเคลื่อนไหวด้านความมั่นคงภายในประเทศ แต่ในยามคับขันประธานาธิบดีมีอำนาจตามกฎหมายปราบการจลาจล ซึ่งบัญญัติขึ้นในสมัยสงครามกลางเมือง สั่งให้ทหารในทุกเหล่าทัพหรือกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิปฏิบัติหน้าที่แบบเดียวกับตำรวจได้ ไม่ว่าจะเป็นการจับกุม ตรวจค้น และควบคุมการชุมนุมทางการเมือง