เพิ่มโทษ 4 อดีตตำรวจคดีฆ่า “จอร์จ ฟลอยด์”

04 มิ.ย. 2563 | 04:45 น.

จากเอกสารคำฟ้องร้องที่เปิดเผยเมื่อวันพุธ (3 มิ.ย.) อัยการของรัฐมินเนโซตา ประกาศตั้งข้อหาใหม่ต่ออดีตตำรวจทุกคนที่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟลอยด์ ชายอเมริกันผิวสี วัย 46 ปี ในเมืองมินนิอาโปลิสเมื่อวันจันทร์ที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยเป็นการเปลี่ยนข้อกล่าวหา เพิ่มโทษให้กับนายเดเร็ก ชอวิน ตำรวจผิวขาวที่ใช้เข่ากดทับลำคอของฟลอยด์จนขาดใจตาย เป็น “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาเเต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน” จากเดิมที่เขาถูกตั้งข้อหาเพียง “ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา”

เดเร็ก ชอวิน (ที่ 3 จากซ้าย) อดีตนายตำรวจที่กดเข่าลงบนคอของจอร์จ ฟลอยด์ จนเสียชีวิต อาจได้รับโทษถึงจำคุก 40 ปี

ส่วนอดีตตำรวจอีก 3 คน ที่อยู่ในเหตุการณ์และถูกปลดออกจากตำแหน่งแล้วเช่นกัน คือ นายโทมัส เลน นายเจ อเล็กซานเดอร์ เคง และนายตู เทา ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้ง 3 คนยังไม่ได้ถูกตั้งข้อหา แต่ขณะนี้พวกเขาถูกตั้งข้อหาฐานสนับสนุนและยุยงส่งเสริมให้เกิดการฆาตกรรมโดยเจตนาแต่ไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน  ซึ่งนับว่าเป็นไปตามที่กลุ่มผู้ประท้วงทั่วสหรัฐเรียกร้อง ว่าให้ตำรวจ 3 นายที่อยู่ในเหตุการณ์ถูกตั้งข้อหาด้วย

 

คีธ เอลลิสัน อัยการของรัฐมินเนโซตา เปิดเผยว่า ชีวิตของเหยื่อมีค่า ดังนั้นจะต้องทวงความยุติธรรมอยู่แล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับแรงกดดันของสาธารณชน คดีของพวกเขาอยู่ในความสนใจของกระบวนการยุติธรรม ตอนแรกเดเร็ก ชอวิน วัย 44 ปี ถูกตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนาและฆ่าผู้อื่นโดยไม่ได้ไตร่ตรองไว้ก่อน แต่ทั้ง 2 ข้อหานี้ก็จะยังคงอยู่ สำหรับชอวิน อาจมีโทษจำคุกสูงสุด 40 ปี ซึ่งสูงกว่าข้อหาเดิมถึง 15 ปี

สมาชิกครอบครัวของฟลอยด์กล่าวว่า พวกเขาต้องการความเป็นธรรม

ในเอกสารคำฟ้องของอัยการยังรวบรวมประวัติของผู้ต้องหาแต่ละคนอย่างละเอียด เช่นกรณีของนายชอวิน เขาเป็นตำรวจมานาน 19 ปี เดิมเป็นพ่อครัวของกองทัพสหรัฐ เคยไปประจำที่จอร์เจียและเยอรมนี ก่อนกลับมาสหรัฐและเข้าเป็นตำรวจ ก่อนหน้านี้เขาเคยถูกร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่มาแล้วถึง 17 ครั้ง และถูกกล่าวหาใช้กำลังเกินกว่าเหตุขณะจับกุมสตรีรายหนึ่ง ด้วยการกระชากลากตัวลงจากรถ เพียงเพราะหญิงรายนี้ขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนดไป 16 ก.ม.ต่อชั่วโมง

 

การเสียชีวิตของฟลอยด์จุดชนวนให้เกิดการประท้วงใหญ่ทั่วสหรัฐเพื่อต่อต้านการเหยียดเชื้อชาติ และการสังหารชาวอเมริกันผิวดำของตำรวจ ซึ่งเกิดขึ้นปล่อยครั้ง โดยการประท้วงส่วนใหญ่ในช่วง 9 วันที่ผ่านมา เป็นไปอย่างสงบ แต่ก็มีหลายเมือง สถานการณ์รุนแรง ทั้งปล้นห้างร้านและเผาทรัพย์สิน รวมทั้งการปะทะกับตำรวจ และหลายเมืองมีการประกาศใช้เคอร์ฟิว


ผู้ประท้วงเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับจอร์จ ฟลอยด์ กล่าวว่า การตายของเขาต้องไม่สูญเปล่า และจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงในสังคมรวมทั้งการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

การประท้วงปะทุขึ้นและยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่องในหลายเมืองทั่วสหรัฐ และยังลุกลามในหลายประเทศด้วย โดยเมื่อวันพุธ (3 มิ.ย.) มีประชาชนออกมาชุมนุมในออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ และในสหราชอาณาจักร

 

นายเบน ครัมป์ ทนายของครอบครัวนายฟลอยด์ เผยว่าการดำเนินคดีดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่ายินดีในความขมขื่น และเปิดทางให้นำความยุติธรรมมาสู่ครอบครัวผู้ตาย สำหรับตนจะยังสอบสวนเพิ่มเติมเพื่อยกระดับข้อกล่าวหาให้เป็นฆาตกรรมโดยเจตนา

 

ด้านผู้ประท้วงที่วอชิงตันและนิวยอร์กส่วนหนึ่งให้ความเห็นว่า การตั้งข้อหาดังกล่าวยังไม่เพียงพอ สิ่งที่เรียกร้องคือการเปลี่ยนแปลงโดยระบบที่จะต้องไม่มีอคติและการเหยียดสีผิวในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ

อ่านเพิ่มเติม

“ทรัมป์”ขู่ใช้กฎหมาย 200 ปี สยบการจลาจลในสหรัฐ

“เคอร์ฟิว” เมืองใหญ่สหรัฐ ขอกองกำลังควบคุมสถานการณ์

“เทย์เลอร์ สวิฟต์” เปิดศึก “ทรัมป์” คนนับล้านกดไลค์

ประท้วง "สหรัฐ" ม็อบเดือดลามทั่ว ทวง “ความเป็นธรรม” แด่คนผิวสี  

เทย์เลอร์ สวิฟต์ ทวีตเดือด ขู่โหวตไล่ “ทรัมป์” พ้นตำแหน่งพ.ย.นี้