ไทยติดโผ"ประเทศปลอดภัย"ของสหภาพยุโรป นทท.เดินทางเข้า EU ได้

สมาชิกของสหภาพยุโรป (EU) ทำการลงมติอนุมัติรายชื่อ"ประเทศปลอดภัย"นอก EU ที่นักท่องเที่ยวและนักธุรกิจจากกลุ่มประเทศดังกล่าวจะสามารถเดินทางเข้าสู่ EU ได้

ทั้งนี้ EU ได้ทำการอนุมัติ 15 ประเทศในรายชื่อดังกล่าว ซึ่งได้แก่ ไทย จีน แอลจีเรีย ออสเตรเลีย แคนาดา จอร์เจีย ญี่ปุ่น มอนเตเนโกร โมรอกโก นิวซีแลนด์ รวันดา เซอร์เบีย เกาหลีใต้ ตูนิเซีย และอุรุกวัย โดยนักท่องเที่ยวจากประเทศเหล่านี้จะสามารถเดินทางเข้าสู่ EU ในวันนี้

อย่างไรก็ดี นักท่องเที่ยวจากจีนจะได้รับอนุมัติให้เดินทางมายัง EU ก็ต่อเมื่อจีนยอมเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจาก EU
          

EU ระบุว่า การตัดสินใจอนุมัติรายชื่อประเทศดังกล่าว ได้อิงจากสถานการณ์ความปลอดภัยด้านสุขภาพของประเทศที่ได้รับการอนุมัติ และจะมีการทบทวนทุก 2 สัปดาห์

นอกจากนี้ EU ยังกำหนดกฎเกณฑ์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในช่วง 14 วันที่ผ่านมา และอัตราผู้ติดเชื้อเมื่อเทียบประชากร 100,000 รายของประเทศในรายชื่อดังกล่าว จะต้องใกล้เคียงหรือต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของ EU รวมทั้งแนวโน้มจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่จะต้องคงที่ หรือลดลงเมื่อเทียบกับในช่วง 14 วันที่ผ่านมา และ EU จะพิจารณารวมถึงมาตรการของรัฐบาลในการรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 10.5 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 5.1 แสนราย
• คณะกรรมาธิการยุโรป เสนอแผนกู้เงิน 7.7 พันล้านยูโร รองรับ"ผลิตยา-วัคซีน"ในอียู
• อียูประกาศจุดยืน เร่งเจรจาเอฟทีเอคู่ค้า

สหรัฐ บราซิล และรัสเซีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากที่สุด 3 อันดับแรกของโลก ไม่อยู่ในรายชื่อประเทศดังกล่าว
         

ทั้งนี้ การลงมติเพื่ออนุมัติรายชื่อ"ประเทศปลอดภัย"ของ EU มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของ EU โดยเฉพาะประเทศในยุโรปตอนใต้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

อย่างไรก็ดี การตัดสินใจอนุมัติรายชื่อ"ประเทศปลอดภัย"ของ EU ในวันนี้ ถือเป็นข้อตกลงที่ไม่มีผลผูกพันแต่อย่างใด ซึ่งหมายความว่า ประเทศสมาชิก EU ยังคงสามารถเปิดพรมแดนให้แก่ประเทศใดก็ตามที่รัฐบาลประเทศนั้นเห็นสมควร ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ยืนยันว่า ในที่สุดแล้ว การตัดสินใจในเรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับแต่ละชาติใน EU แต่ EC แนะนำให้การเปิดประเทศควรดำเนินไปภายใต้ความร่วมมือของสมาชิก EU เพื่อหลีกเลี่ยงความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น