ข้อความในทวิตเตอร์ของคานเย เวสต์ติดแฮชแท็ก #2020VISION พร้อมด้วยรูปธงชาติสหรัฐและเครื่องหมายตกใจ ขณะที่คิม คาร์เดเชียน ภรรยาของเขาซึ่งเป็นคนดังในวงการโทรทัศน์และโซเชียลมีเดีย เข้ามาคอมเมนท์โพสต์ดังกล่าวด้วยรูปธงชาติอเมริกันเช่นกัน
สื่อต่างประเทศรายงานว่า ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าเวสต์จริงจังแค่ไหนกับการประกาศเช่นนี้ เพราะเหลือเวลาอีกเพียง 4 เดือนก่อนถึงวันเลือกตั้ง 3 พ.ย. 2563 และยังไม่มีรายงานว่า เวสต์ได้ยื่นเอกสารลงสมัครรับเลือกตั้งในรัฐใด แต่ถ้าหากว่าเขาจริงจังในเรื่องนี้ ก็ต้องไปยื่นเรื่องขอลงสมัครเป็นผู้สมัครอิสระ
ทั้งนี้ คานเย เวสต์ วัย 43 ปี เคยประกาศว่าจะลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐมาแล้วหลายครั้ง เช่น เมื่อครั้งเข้าร่วมงาน MTV Video Music Award ในปี 2558 และเมื่อครั้งเข้าร่วมงาน Fast Company Innovation Festival ในปี 2562 แต่ก็ไม่เคยทำเช่นนั้นจริง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์กล่าวว่า ถ้าคานเย เวสต์ เอาจริงในครั้งนี้ เขาก็จะเป็นผู้สมัครที่ดึงคะแนนเสียงทั้งจากฝั่งนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน แม้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เวสต์จะประกาศตัวเป็นผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์อย่างเปิดเผย และมีส่วนช่วยเรียกคะแนนเสียงให้ทรัมป์ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หลังจากที่นักธุรกิจชั้นนำและคนดังทางโทรทัศน์อย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ยังสามารถชนะการเลือกตั้งและขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2559 ความคิดที่ว่าคานเย เวสต์ แรปเปอร์และนักธุรกิจคนดัง จะขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีและมีภรรยาเซเลบชั้นแนวหน้าอย่างคิม คาร์เดเชียน เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้
เวสต์เป็นศิลปินเพลงที่คว้ารางวัลแกรมมี่มาแล้ว 21 รางวัล ในปี 2561 เขาเคยออกสื่อแสดงความสนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์อย่างเปิดเผย ด้วยการสวมหมวกสีแดงมีข้อความ “Make America Great Again” ซึ่งเป็นสโลแกนที่ทรัมป์ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ผ่านมา ข่าวระบุว่า เขายังเคยเข้าไปเป็นแขกของทำเนียบขาวเพื่อหารือกับทรัมป์เกี่ยวกับการปฏิรูประบบในเรือนจำ เมื่อไม่นานมานี้ เวสต์ยังออกซิงเกิ้ลใหม่ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการเหยียดเชื้อชาติและสีผิว ตลอดจนประเด็นเกี่ยวกับศาสนาและความเชื่อ ซึ่งได้รับความชื่นชมจากผู้ฟัง
จากสถิติที่ผ่านมาเกี่ยวกับผู้ลงสมัครอิสระในสังเวียนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ พบว่ามีหลายคนที่เคยช่วงชิงคะแนนทั้งจากฝั่งเดโมแครตและรีพับลิกัน ได้อย่างมีนัยยะสำคัญ เช่นในปี 2535 นายรอสส์ เพโรต์ มหาเศรษฐีจากรัฐเท็กซัส คว้าคะแนนเสียงได้ถึง 19 % จากคะแนนทั้งหมด และในปี 2543 นายราล์ฟ เนเดอร์ จากพรรคกรีน แม้จะมีคะแนนเพียงราว ๆ 3 % จากทั้งหมดแต่ก็มีส่วนดึงคะแนนไปจากนายอัล กอร์ ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต และมีส่วนทำให้เขาพลาดชัยชนะในการเลือกตั้งปีนั้นด้วย
ข้อมูลอ้างอิง