กัวลาลัมเปอร์,( ซินหัว )รายงานว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค. สื่อท้องถิ่นรายงานว่า นาจิบ ราชัก อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้รับคำสั่งจากการพิพากษาชี้ขาดคดีให้จ่ายภาษีย้อนหลังเป็นมูลค่า 1.69 พันล้านริงกิต (ราว 1.25 หมื่นล้านบาท)
เบอร์นามา สำนักข่าวทางการมาเลเซียรายงานคำกล่าวของผู้พิพากษาศาลสูงแห่งกรุงกัวลาลัมเปอร์ที่ว่า คณะกรรมการสรรพากรในประเทศ ( IRB ) ซึ่งเป็นหน่วยงานจัดเก็บภาษีของมาเลเชีย มีสิทธิ์เก็บภาษีที่ค้างชำระช่วงปี 2011-2017
การพิพากษาชี้ขาดคดี คือการที่ศาลพิจารณคดีผ่านข้อโต้แย้ง โดยปราศจากการไต่สวนพยานหลักฐาน
ผู้พิพากษากล่าวว่า ศาลได้รับประกาศจากคณะกรมการไออาร์บี ซึ่งระบุให้ผู้มีหน้าที่เสียภาษีทุกคนจ่ายภาษีแก่คณะกรรมการ รวมถึงนาจิบด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม นาจิบจะได้รับอนุญาตให้อุทธรณ์เงินจำนวนนี้ต่อคณะกรรมาธิการพิเศษภาษีเงินได้ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ไต่สวนและตัดสินอุทธรณ์จากผู้ชำระภาษี ตามกฎหมายภาษีของประเทศ
รัฐบาลได้ยื่นฟ้องนาจิบผ่านคณะกรรมการไออาร์บีเมื่อปีที่แล้ว โดยขอให้เขาจ่ายภาษีที่ค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี นับจากวันตัดสิน รวมถึงค่าใช้จ่ายและค่าเยี่ยวยาอื่นๆ ตามที่ศาลเห็นสมควร
นาจิบ ถูกฟ้องร้องด้วยข้อกล่าวหาอีกหลายสิบข้อ รวมถึงการทุจริต การฟอกเงิน การใช้อำนาจในทางที่ผิด และการละเมิดต่อหน้าที่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับเงินหลายล้านริงกิต นับตั้งแต่พรรคของเขาสูญเสียอำนาจในการเลือกตั้งปี 2018 ทั้งนี้เขาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด
อนึ่ง คำตัดสินของการพิจรณาคดีหนึ่งโดยบริษัท เอสอาร์ซี อินเตอร์เนชั่นแนล อดีตหน่วยงานของกองทุนการพัฒนาวันมาเลเซีย (1MDB/วันเอ็มดีบี) จะประกาศในวันที่ 28 ก.ค. นี้