คืนวันนี้(1 ส.ค.63) เวลา 23.30 น. ตามเวลาของไทย มีการแข่งขันฟุตบอล เอฟเอคัพ (FA Cup) ประเทศอังกฤษ นัดชิงชนะเลิศ ที่สนามเวมบลีย์ ระหว่าง “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี พบกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล
อัพเดท ล่าสุด หมดเวลา อาร์เซนอล ชนะ เชลซี 2:1
เกมนี้ต้องมันหยดติ๋งแน่นอน เป็นการวัดกึ๋นของผู้จัดการทีมหนุ่ม ระหว่าง มิเกล อาร์เตต้า ที่เพิ่งคุมทัพอาร์เซนอลเต็มตัวกับทีมปืนใหญ่ เมื่อปลายปี 2019 ขณะที่เชลซีนำทัพโดยผู้จัดการ “แฟรงก์ แลมพาร์ด” ที่พาเชลซีคว้าตั๋วยูฟ่าแชมเปี้ยนลีกได้ในนัดสุดท้ายของพรีเมียร์ลีก
นับสถิติของผู้จัดการทีมทั้งคู่แล้ว อาร์เตต้า เคยสัมผัสแชมป์เอฟเอคัพมาแล้ว 2 ครั้ง เมื่อครั้งยังเป็นนักเตะให้อาเซนอล ส่วน แลมพาร์ดเคยสัมผัสแชมป์ในสีเสื้อเชลซีมาแล้ว 4 ครั้ง และนี่จะเป็นชิงแชมป์ครั้งแรกของทั้งคู่ในฐานะผู้จัดการทีม
ย้อนไปดูอันดับในพรีเมียร์ลีก เชลซีจบที่อันดับที่ 4 คว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ส่วน อาร์เซนอลจบอันดับ 8 หลุดพื้นที่ไปสโมสรยุโรป ดังนั้นแชมป์เอฟเอ คัพ” จึงเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะทำให้ปืนใหญ่ได้ไปโชว์ฝีเท้าในยุโรปาลีกในฤดูกาลหน้า เพราะนั่นหมายถึงรายได้มหาศาลจากเกมยุโรป
สถิติในการพบกันของทั้งสองทีมในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา เชลซีเป็นฝ่ายทำได้ดีกว่า โดยบุกไปชนะ 2-1 ที่เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม และมาเสมอกัน 2-2 ที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
ส่วนสถิติรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ อาร์เซนอล และ เชลซี เคยดวลแข้งกันมาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกเป็นนัดชิงปี 2002 ทีมปืนใหญ่ได้แชมป์ด้วยชัยชนะ 2-0 จากประตูของ เรย์ พาร์เลอร์ กับ เฟรดริก ลุงเบิร์ก ซึ่งเกมวันนั้น แลมพาร์ด ลงปั้นเกมแดนกลางให้กับเชลซีด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สรุปผลฟุตบอล “พรีเมียร์ลีก” นัดสุดท้าย ปิดฤดูกาล 2019-2020
'ลิเวอร์พูล' รวมภาพชูถ้วย "แชมป์พรีเมียร์ลีก"
ส่วนครั้งที่สองปี 2017 อาร์เซนอลถย้ำแค้นเชลซีได้อีกครั้ง หลังจากเฉือนชนะ 2-1 โดย อเล็กซิส ซานเชซ ยิงให้ทีมปืนใหญ่ขึ้นนำตั้งแต่นาทีที่ 4 ก่อนที่ ดีเอโก้ คอสต้า จะตามตีเสมอให้เชลซีในนาที 76 แต่หลังจากนั้นเพียง 3 นาที แอรอน แรมซีย์ ซัดประตูชัยให้อาร์เซน่อลคว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นสมัยที่ 13 มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรายการนี้
การพบกันคืนนี้ จึงเป็นนัดชิงดำเอฟเอคัพครั้งที่ 3 ระหว่าง อาร์เซนอล-เชลซี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 23.30 น. มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลนัดดังกล่า่ว โดยที่ในสนามไม่มีคนดู เริ่มเกมไปเพียง 5 นาที "คริสเตียน พูลิซิช" กองกลางตัวรุกและปีกของเชลซีและทีมชาติสหรัฐ ก็ยิงประตูขึ้นนำให้กับเชลซีนำอาเซนอล 0-1
แต่ต่อมานาทีที่ 28 "โอบาเมอย็องก์" กองหน้าอาเซนอล ทีมชาติกาบอง ถูกทำฟาล์วในเขตโทษขณะเข้าทำประตู เจ้าตัวลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษด้วยตัวเอง เป็นประตูตีเสมอให้กับปืนใหญ่ อาเซนอล 1-1 และจากนั้นจบครึ่งแรกเสมอกัน 1-1
เริ่มครึ่งหลัง นาทีที่ 67 "โอบาเมอย็องก์" ยิงประตูที่สองของตัวเองในนัดนี้ ให้ปืนใหญ่ อาเซนอลนำ 2-1
จากนั้นนาทีที่ 73 สถานการณ์ของเชลซีแย่ลง เมื่อ "มาเทออ คอวาชิช" กองกลางชาวโครเอเชีย ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ทำให้เชลซีเหลือผู้เล่นเพียง 10 คน