นายแพทริก แวลแลนซ์ ที่ปรึกษารัฐบาลอังกฤษ กล่าววานนี้ (21 ก.ย.) ว่า ขณะนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่ในอังกฤษ เพิ่มขึ้น 2 เท่าในทุก ๆ 7 วัน ซึ่งหากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ก็จะทำให้อังกฤษมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่จำนวน 50,000 รายต่อวันภายในกลางเดือนหน้า และจะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 รายต่อวัน
ขณะนี้ อังกฤษมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สะสมอยู่ที่ 394,257 ราย และมีผู้เสียชีวิตจำนวน 41,777 ราย
ในช่วงต้นเดือน อังกฤษพบยอดผู้ติดเชื้อใหม่รายวันสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ที่ระดับ 2,988 คนเมื่อวันที่ 6 ก.ย. โดยนายแมตต์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษ ออกมายอมรับว่าเป็นเรื่องน่ากังวล และยังพบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว “การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้ติดเชื้อที่เราพบเห็นในวันนี้เป็นสิ่งที่น่ากังวล” นายแฮนค็อกกล่าวและว่า หลักๆ แล้ว ในขณะนี้การติดเชื้อเกิดขึ้นในหมู่วัยรุ่น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของผู้ติดเชื้อในหมู่คนหนุ่มสาวในลักษณะนี้ อาจจะนำไปสู่การติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นในทั่วทุกกลุ่มประชากรในที่สุด
“ทุกคนจำเป็นต้องปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้” รมว.สาธารณสุขอังกฤษกล่าวย้ำว่า มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ยังคงมีความสำคัญลำดับต้น ๆ ในการแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกันรัฐบาลจะยังเดินหน้าใช้มาตรการล็อกดาวน์ระดับท้องถิ่นควบคู่กันไปเพื่อช่วยสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรค
ทั้งนี้ แนวโน้มของจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันในอังกฤษ เริ่มเพิ่มขึ้นมาหลายสัปดาห์แล้ว แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลและยอดผู้เสียชีวิต ยังคงอยู่ในระดับต่ำ
รายงานข่าวระบุว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อในอังกฤษมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ในฝรั่งเศส ซึ่งไวรัสโควิด-19 ได้กลับมาแพร่ระบาดรอบใหม่เช่นกัน กระทั่งเรียกได้ว่าอยู่ในขั้นวิกฤติ โดยสถิติผู้ติดเชื้อใหม่รายวันได้ทะยานขึ้นสู่ระดับ 8,975 คน (ภายในรอบ 24 ชั่วโมง) เมื่อวันที่ 4 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำสถิติใหม่เช่นกัน ถือเป็นสถิติมีผู้ติดเชื้อรายวันสูงสุดนับตั้งแต่โควิด-19 ได้แพร่ระบาดในประเทศฝรั่งเศส
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
อังกฤษผ่อนผัน ผู้เดินทางจากไทยไม่ต้องถูกกักตัว 14 วันแล้ว
"อังกฤษ" สั่งห้ามรวมกลุ่มเกิน 6 คน ตั้งแต่ 14 ก.ย.นี้ หลังยอดติดเชื้อพุ่ง