นายแบรด พาร์สเกล อดีตผู้จัดการแคมเปญหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เพิ่งถูกสั่งปลดเมื่อเร็ว ๆนี้ ถูกนำตัวส่งเข้าโรงพยาบาลในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.) หลังจากที่เขา ขู่ว่าจะทำร้ายตัวเอง ในบ้านพักที่รัฐฟลอริดาและภรรยาของเขาก็ตัดสินใจที่จะโทรขอความช่วยเหลือจากตำรวจ
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานโดยอ้างอิงการเปิดเผยของสื่อท้องถิ่นสหรัฐว่า นายพาร์สเกล วัย 44 ปี มีการตอบโต้ทางวาจาอย่างดุเดือดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ นอกจากนี้ เขายังเขาพกอาวุธและกักตัวเองอยู่ในบ้าน อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้พยายามเจรจากับนายพาร์สเกลจนเป็นผลสำเร็จและสามารถนำตัวเขาส่งโรงพยาบาลในที่สุด โดยไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นเวลาไม่นาน โดยหลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ก็ได้นำตัวนายพาร์สเกลส่งเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ภายใต้ข้อกฎหมายที่อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ สามารถควบคุมตัวบุคคลที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อตนเองและผู้อื่นได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ลั่นกลองศึก! “ทรัมป์-ไบเดน” ดีเบตยกแรก 29 ก.ย.นี้
เตือนวอลล์สตรีทอาจผันผวนสัปดาห์หน้า จับตาดีเบต"ทรัมป์ VS ไบเดน"
ศึกเลือกตั้งปธน.สหรัฐร้อนฉ่า “ไบเดน” ผงาดคู่แข่งทรัมป์อย่างเป็นทางการ
วิกฤติประท้วงทุบคะแนนนิยม “ทรัมป์” จ่อพ่ายเลือกตั้ง
นายทิม เมอร์ทอห์ ผู้อำนวยการฝ่ายการสื่อสารประจำแคมเปญการเลือกตั้งของปธน.ทรัมป์ ระบุในแถลงการณ์ว่า "คุณแบรด พาร์สเกล เป็นคนในครอบครัวของเรา และเราทุกคนรักเขา เราพร้อมสนับสนุนคุณแบรดและครอบครัวในทุกวิถีทางที่เป็นไปได้"
เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมา ปธน.ทรัมป์ได้ถอดนายพาร์สเกล ออกจากการทำหน้าที่ผู้จัดการแคมเปญหาเสียง และได้แต่งตั้งนายบิล สตีเปียน ทำหน้าที่แทน หลังจากปธน.ทรัมป์ได้รับคะแนนนิยมตามหลังนายโจ ไบเดน คู่ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครต
หลังจากนั้นก็แทบจะไม่มีใครได้เห็นนายพาร์สเกลไปทำงานที่ศูนย์ปฏิบัติการของทีมงานหาเสียงของปธน.ทรัมป์อีก อย่างไรก็ดี ปธน.ทรัมป์ยังคงมอบหมายให้นายพาร์สเกลทำหน้าที่ผู้นำกลยุทธ์ด้านดิจิทัลและข้อมูลของทีมหาเสียง