ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(1พ.ย.63) พายุ “ซูปเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี” ขึ้นฝั่งประเทศฟิลิปปินส์แล้วเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาตามเวลาประเทศไทย
โดยพายุ ซูปเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี ขึ้นฝั่ง ที่จังหวัดคาตันตัวเนส ทางตะวันออกของเกาะลูซอน ซึ่งเป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุด และตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศฟิลิปปินส์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
เกาะติด"พายุโคนี"ทวีความแรงเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5
ซูปเปอร์ไต้ฝุ่น “โคนี” พายุแรงสุดในรอบปี ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ วันนี้
ภาพดาวเทียม พายุ “ซูปเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี” 1 พ.ย. 63
ผลกระทบ "พายุไต้ฝุ่นโคนี" น้ำป่าทะลัก “ปักธงชัย-วังน้ำเขียว” (คลิป)
“พลเอก ประวิตร” ย้ำ กอนช. จับตา “พายุซูปเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี” ใกล้ชิด
ด้วยความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลาง 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และความเร็วลมกระโชกสูงสุด 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นพายุหมุนที่มีความเร็วลมสูงสุดในโลกประจำปีนี้
ก่อนหน้านี้รัฐบาลฟิลิปปินส์ ได้เตรียมการรับมือ อพยพประชาชนมากกว่า 1,000,000 คน อาศัยอยู่ตลอดแนวชายฝั่งทางตะวันออก เรื่อยไปจนถึงตอนใต้ของเกาะลูซอน โดยเฉพาะจังหวัดอัลไบ จังหวัดฮีลากังคามารีเนส และจังหวัดตีโมกคามารีเนส เนื่องจากมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นเส้นทางพาดผ่านของพายุ
สำนักงานอุตุนิยมวิทยา เตือนภัยประชาชนบนเกาะลูซอน รวมถึงกรุงมะนิลา ให้เตรียมรับมืออิทธิพลของพายุโคนี ที่อาจจะส่งผลให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน และดินถล่ม
ด้านท่าอากาศยานนานาชาตินินอย อากีโน ซึ่งเป็นสนามบินหลักของฟิลิปปินส์ ประกาศปิดให้บริการระหว่างวันนี้ ถึงวันจันทร์ที่ 2 พ.ย.2563 ในเวลาเดียวกัน ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ และหน่วยยามฝั่ง สำรองกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ฟิลิปปินส์เผชิญกับอิทธิพลของไต้ฝุ่นโมลาเบที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 22 ราย
นอกจากนี้ ทุกฝ่ายในฟิลิปปินส์กำลังจับตาการก่อตัวและการเคลื่อนที่ของไต้ฝุ่นอัสนี ซึ่งจะเป็นพายุลูกที่ 20 ที่เตรียมพาดผ่านฟิลิปปินส์ อาจมีความรุนแรงยิ่งกว่าพายุโคนีด้วย