ส่องโมเดลเกาหลีใต้ เว้นระยะยังไง กระทบธุรกิจน้อยที่สุด

รัฐบาลเกาหลีใต้ ประกาศใช้ มาตรการใหม่เกี่ยวกับการเว้นระยะห่างทางสังคม (social distancing) วานนี้ (1 พ.ย.) โดยจะแบ่งออกเป็น 5 ระดับ  แทนที่แบบเดิมที่มีเพียง 3 ระดับ เป้าหมายเพื่อมุ่งลดจำนวนร้านค้าและร้านอาหารที่ต้องปิดให้บริการลงให้มีน้อยที่สุด และ ลดผลกระทบจากโควิด-19 ที่มีต่อเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กและประชาชนทั่วไป ให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุดเช่นกัน

นายช็อง เซ-กยุน นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ กล่าวในการประชุมที่ศูนย์รับมือภัยพิบัติและความปลอดภัยกลาง (CDSCHQ) ว่า รัฐบาลเกาหลีใต้ได้ออกแบบมาตรการรับมือโควิด-19 ใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพจากมาตรการเดิมที่ไม่ได้คำนึงถึงสถานการณ์ของแต่ละสถานที่

ทั้งนี้ ภายใต้มาตรการใหม่ แต่ละสถานที่จะถูกแยกออกเป็นกลุ่ม "สำคัญ" และ "ทั่วไป" ในแง่ของการใช้มาตรการรับมือโควิด-19 อย่างไรก็ตาม ยังคงบังคับให้สวมใส่หน้ากากอนามัยในสถานที่ "มีความเสี่ยงสูง" ซึ่งจะใช้กับทุกแห่ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

3 ประเทศใหญ่ในยุโรปประกาศล็อกดาวน์ระลอก2 คุมโควิดระบาดหนักหน้าหนาว

ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุ 46.7 ล้านราย เพิ่มขึ้น 4.2 แสนราย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใหม่ในเกาหลีใต้อยู่ที่ระดับกว่า 100 คน/วัน เป็นวันที่ 5 ติดต่อกัน ทำให้ล่าสุด จำนวนผู้ติดเชื้อรวมทั่วประเทศอยู่ที่ 26,635 คน

ในเบื้องต้น ประชาชนยังคงต้องสวมหน้ากากอนามัย โดยหากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉลี่ยต่อวันในกรุงโซลต่ำกว่า 100 คน ในจังหวัดชุงช็อง ช็อลลา และคย็องซัง มีผู้ติดเชื้อเฉลี่ยต่อวันต่ำกว่า 30 คน และในจังหวัดคังว็อน และเกาะเจจู มีผู้ติดเชื้อเฉลี่ยต่ำกว่า 10 คน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ติดต่อกัน จะจัดว่าเป็นสถานการณ์ปกติระดับ 1

ถ้าหากผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์เกินกว่าระดับ 1 ข้อกำหนดจะปรับเป็นระดับ 1.5 ซึ่งจะจำกัดจำนวนประชาชนที่เข้าใช้สถานที่ที่มีประชาชนหนาแน่น 

ถ้าหากผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์แตะระดับ 300 คน หรือสถานการณ์อยู่ในระดับ 1.5 ติดต่อกันอย่างน้อย 1 สัปดาห์ใน 3 จังหวัดขึ้นไป จะยกระดับสถานการณ์เป็นระดับ 2 ซึ่งจะห้ามการรวมตัวทางสังคมเกินกว่า 100 คน และหลัง 21.00 น. ร้านอาหารจะสามารถให้บริการได้เพียงซื้อกลับบ้านหรือส่งถึงบ้านเท่านั้น

ถ้าหากผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์อยู่ระหว่าง 400-500 คน หรือมากกว่านั้น จะยกระดับสถานการณ์เป็นระดับ 2.5 ซึ่งจะห้ามการรวมตัวทางสังคมเกินกว่า 50 คน และสั่งปิดสถานที่ที่มีคนรวมตัวกันหน้าแน่นหลังเวลา 21.00 น.

ถ้าหากผู้ติดเชื้อโควิด-19 เฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์อยู่ระหว่าง 800-1,000 คน หรือมากกว่านั้น จะยกระดับสถานการณ์เป็นระดับ 3 ซึ่งหากถึงระดับนี้ จึงจะขอให้ประชาชนอยู่ในบ้าน และห้ามการรวมตัวทางสังคมเกินกว่า 10 คน และสั่งปิดสถานที่ “ทุกแห่ง” ยกเว้นสถาบันทางการแพทย์และร้านอาหาร